เงินบาทปิด 29.36/38 อ่อนค่าต่อ นลท.รอผลประชุมลุ้นออกมาตรการแก้บาทแข็ง

โดยวันนี้เงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง ระหว่างวันอ่อนค่าสุดที่ระดับ 29.44/45 บาท/ดอลลาร์ แล้วค่อยๆ เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ขณะที่กรอบเงินบาทในต้นสัปดาห์หน้ายังไม่สามารถประเมินได้ในขณะนี้ เนื่องจากต้องรอดูความชัดเจนจากผลการประชุมเรื่องสถานการณ์ค่าเงินบาทในช่วงเย็นวันนี้ก่อน

"ณ ขณะนี้ตอบยากมาก เพราะยังรอผลประชุมระหว่างนายกฯ กับกระทรวงการคลัง และแบงก์ชาติว่าจะออกมาอย่างไร จะมีมาตรการอะไรหรือไม่" นักบริหารเงิน กล่าว

• ปัจจัยสำคัญ

• ปิดตลาดเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.60 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 99.07/08 เยน/ดอลลาร์
• ส่วนเงินยูโรล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1.3013 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3029/3030 ดอลลาร์/ยูโร
• นักลงทุนยังคงติดตามผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศ ว่าช่วงเย็นนี้จะมีการออกมาตรการใดๆ เพื่อช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทหรือไม่
• นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MPA) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) แนะธปท.ลดดอกเบี้ยแก้บาทแข็งช่วงนี้ มองเหมาะสมชะลอเงินไหลเข้า เหตุตัวเลขเงินเฟ้อในปัจจุบันยังอยู่ในกรอบที่ระดับ 1.23% และระดับเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ 2.69%ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมต่อการขยายตัวเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น
• นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะทำงานร่วมเพื่อผลักดันและแก้ไขปัญหาทางการค้าว่า จะทำหนังสือถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อแสดงความกังวลต่อการแก้ไขปัญหาเงินบาทแข็งค่า และให้นำเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนที่ภาคเอกชนเสนอไปให้ด้วย เพื่อให้ ธปท.นำไปใช้แก้ไขค่าเงินบาทแข็งค่าต่อไป ซึ่งคาดสัปดาห์หน้าน่าจะส่งหนังสือดังกล่าวไปยังธปท.ได้
• SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,582.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด(+0.55%) มูลค่าการซื้อขาย 54,547 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นแม้รอผลประชุมทีมเศรษฐกิจแก้ปัญหาบาทแข็ง แต่เชื่อมาตรการที่จะนำมาใช้คงไม่กระทบตลาดหุ้น น้ำหนักคงจำกัดเฉพาะตลาดพันธบัตรมากกว่าจะใช้มาตรการดอกเบี้ยที่จะกระทบเศรษฐกิจโดยรวม
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,750.38 ลบ.(SET+MAI)
• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานผลประกอบการของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงหุ้นพีพีอาร์ ที่ดิ่งลง 5.5% และหุ้นโททาล ที่ลดลง 1.2%
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ปิดตลาดเย็นนี้ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้น 177 ดอลลาร์ฮ่องกง มารปิดที่ระดับ 13,620 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,473.31 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 19.15 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.1% พร้อมกับยืนยันจะเดินหน้าโครงการเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 60-70 ล้านล้านเยน/ปี เพื่อเพิ่มปริมาณเงินที่ BOJ จะอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในระยะเวลา 2 ปี

ทั้งนี้ BOJ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศจะแตะ 1.9% ในปีงบประมาณ 58 ซึ่งใกล้บรรลุเป้าเงินเฟ้อที่ 2% ในราว 2 ปี โดยมีแรงหนุนจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในเชิงรุกเพื่อจัดการภาวะเงินฝืด นอกจากนี้ ยังปรับเพิ่มแนวโน้ม GDP ของญี่ปุ่นในปี 56 โดยคาดว่าจะขยายตัว 2.9% จากก่อนหน้าที่คาดว่าจะขยายตัว 2.3%

• เกาหลีเหนือได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของเกาหลีใต้ในการหารืออย่างเป็นทางการร่วมกันเกี่ยวกับการเริ่มดำเนินการของนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์แนะนำให้คนงานชาวเกาหลีใต้ทั้งหมดออกจากนิคมอุตสาหกรรมแกซอง โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เกาหลีเหนือปฏิเสธข้อเสนอของรัฐบาลเกาหลีใต้