เงินบาทปิด 29.30/32 อ่อนค่าตามแรงขาย, รอผลหารือ กนง.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 29, 2013 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 29.30/32 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 29.23/25 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาททำโลว์ที่ระดับ 29.18/20 บาท/ดอลลาร์ และทำไฮที่ระดับ 29.32/34 บาท/ดอลลาร์ โดยนักลงทุนยังรอผลประชุมของ กนง.ในวันพรุ่งนี้
"ช่วงบ่ายกลับมาอ่อนค่าแกว่งตัวช่วง 29.28-29.32 บาท/ดอลลาร์ ตามแรงซื้อขาย" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.78/79 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 97.63/67 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3084/3085 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3048/3049 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,584.93 จุด เพิ่มขึ้น 2.00 จุด, +0.13% มูลค่าซื้อขาย 49,258.25 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,169.19 ล้านบาท(SET+MAI)
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะเสนอมาตรการเสริมที่จะนำมาใช้ดูแลค่าเงินบาทมาให้กระทรวงการคลังพิจารณาหากยืนยันความจำเป็นที่จะต้องคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะมีการหารือกันในวันพรุ่งนี้ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเป็นการประชุมนัดพิเศษหรือไม่
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เชื่อว่า หากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะใช้มาตรการในการดูแลเงินบาท จะไม่กระทบต่อตลาดหุ้น
  • ขณะที่นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เชื่อว่า มาตรการที่ทางการจะนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาบาทแข็งนั้น จะไม่เกิดผลกระทบรุนแรงต่อตลาดหุ้น แต่อย่างไรก็ดี ตลท.ก็ได้มีการเตรียมการไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เผยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/56 มีอัตราการขยายตัว 6% ขณะที่ทั้งปี 56 ยังคงเป้าหมายเดิมเศรษฐกิจเติบโต 5.3% ทั้งนี้ สศค.จะติดตามผลจากสถานการณ์เงินบาทแข็งค่า ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบมากในไตรมาส 2/56 โดยมองว่าหากจะให้การส่งออกเติบโตได้ตามเป้าหมาย มูลค่าการส่งออกในช่วงที่เหลือจะต้องเติบโตเฉลี่ย 10% ในแต่ละไตรมาส
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน เผยอัตราการเติบโตของกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนได้ชะลอตัวลงในเดือน มี.ค.ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังอ่อนแรงลง โดยภาคอุตสาหกรรมของจีนมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 5.3% จากปีก่อน แตะที่ 4.649 แสนล้านหยวน(7.5 หมื่นล้านดอลลาร์) ลดลงจากอัตราการเติบโต 17.2% ใน 2 เดือนแรกของปี ขณะที่กำไรในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 12.1% แตะที่ 1.17 ล้านล้านหยวน
  • นายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอยของสเปน กล่าวปกป้องนโยบายเศรษฐกิจที่รัฐบาลของเขาได้ดำเนินการในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา และยืนกรานว่าเขาไม่มีแผนจะปรับคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นในช่วง 2 วันหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายลูอิส เด กินดอส รมว.เศรษฐกิจ และนายคริสโตบาล มอนโตโร รมว.คลัง ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสเปนที่ได้รับการปรับทบทวน ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลง 1.3% ในปี 2556 ขณะที่อัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะ 27.1%
  • นักเศรษฐศาสตร์ คาดธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 2 พ.ค.นี้ ส่วนธนาคารกลางอังกฤษซึ่งจะประชุมในสัปดาห์หน้าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ทั้งนี้อีซีบีได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาเป็นเวลา 9 เดือนติดต่อกันแล้ว
  • นักวิเคราะห์ คาดยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเดือน มี.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้อาจจะทรงตัวในระดับเดียวกับเดือน ก.พ.ที่ขยายตัว 0.7% ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงใช้นโยบายซื้อพันธบัตรในการประชุมที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยจะเริ่มในวันพรุ่งนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ