นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยูธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 29.34/36 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 29.24/26 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาท Low สุดอยู่ที่ 29.24/26 บาท/ดอลลาร์ High สุดอยู่ที่ 29.29/41 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้จริงๆ ตลาดไม่ได้ trade กันเยอะเท่าไหร่ เพราะยังรอสรุปมาตราการจากทางแบงค์ชาติอยู่ว่าจะมีอะไรหรือไม่" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพฤหัสในกรอบระหว่าง 29.25-29.45 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังต้องรอดูผลประชุมของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ก่อนว่าจะมีอะไรออกมาหรือไม่
*ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.44/45 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 98.00 บาท/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3077/3079 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3085 ดอลลาร์/ยูโร
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,408.30 ลบ.(SET+MAI)
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำจดหมายตอบกลับกระทรวงการคลัง ที่สอบถามความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ค่าเงินบาทในปัจจุบัน โดยระบุว่า ในฐานะผู้ว่าฯ ธปท.ไม่มีอำนาจก้าวก่ายการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) แต่ ธปท.มีความเป็นห่วงว่าหากลดดอกเบี้ยนโยบายแล้วอาจจะมีผลต่ออัตราสินเชื่อในตลาด และจะส่งผลให้อสังหาริมทรัพย์มีราคาสูงขึ้นมาก
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะนำข้อหารือที่ได้จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขผลกระทบจากปัญหาเงินบาทแข็งค่าที่มีต่อภาคอุตสาหกรรมไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)นอกรอบในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อให้ กนง.ได้พิจารณาถึงผลกระทบที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ ก่อนที่จะนำไปพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง.วาระปกติวันที่ 29 พ.ค.56
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากยูบีเอสและบีพีต่างรายงานรายได้ที่สูงกว่าคาดการณ์ รวมทั้งการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรปจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 19 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 13,680 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,479.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 2.06 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
รัฐสภาไซปรัสประชุมร่วมกันในวันนี้ เพื่อรับรองข้อตกลงความช่วยเหลือมูลค่า 1 หมื่นล้านยูโรกับยูโรกรุ๊ป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)
- สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป(ยูโรสแตท) รายงานว่า อัตราว่างงานในยูโรโซนที่มีสมาขิก 17 ประเทศ เพิ่มขึ้นแตะ 12.1% ในเดือนมี.ค.จาก 12% ในเดือนก.พ. ขณะที่อัตราว่างงานในสหภาพยุโรป(อียู) ที่มีสมาชิก 27 ประเทศ ทรงตัวที่ 10.9% ในเดือนมี.ค.
- สำนักงานสถิติแห่งชาติสเปน เปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 1/56 หดตัว 0.5% จากไตรมาส 4/55 ที่หดตัว 0.8% ทั้งนี้เศรษฐกิจที่หดตัวลงเป็นเวลานานถึง 6 ปีของสเปน ส่งผลให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 27% และยังทำให้อุปสงค์ภายในประเทศลดลงด้วย แต่รัฐบาลสเปนคาดว่าอัตราว่างงานในประเทศจะปรับตัวลดลงใน 3 ปีข้างหน้า
- สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น เผยปริมาณการผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นในปีงบการเงิน 2555 ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมี.ค.56 เพิ่มขึ้น 3.1% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 9,554,400 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยยอดผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นในปีงบการเงิน 2555 ขยายตัวสอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น 9.6% สู่ระดับ 5,210,291 คัน ทั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากโครงการของรัฐบาลที่อุดหนุนการซื้อรถยนต์ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม