โดยระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าสุดที่ระดับ 29.54 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 29.67 บาท/ดอลลาร์
ทิศทางของเงินบาทในช่วงนี้ยังไม่ชัดเจนนัก ตราบใดที่ยังไม่มีความชัดเจนจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ว่าจะตัดสินใจประกาศใช้มาตรการใดในการเข้ามาดูแลค่าเงินบาท แม้จะมีข่าวออกมาแล้วว่า ธปท.ส่งหนังสือแจง 4 มาตรการถึงกระทรวงการคลัง ซึ่งมีตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงเข้มข้น
"ตราบใดที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องมาตรการดูแลค่าเงิน ยังไม่มีการคอนเฟิร์มจากแบงก์ชาติ บาทก็จะยังแกว่งๆ อยู่อย่างนี้ ตอนนี้นักลงทุนรอดูปัจจัยนี้เป็นหลัก ส่วนปัจจัยต่างประเทศก็ไม่ค่อยมีผลมากนัก" นักบริหารเงิน ระบุนักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.45-29.70 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดวันนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.24/25 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 98.90 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3106/3107 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3080 ดอลลาร์/ยูโร
- ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,601.15 จุด เพิ่มขึ้น 22.22 จุด(+1.41%) มูลค่าการซื้อขาย 48,238.87 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยพลิกกลับมาบวกแรงทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1,600 จุด แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรช่วงต้นภาคเช้ากดดัชนีลงไปอยู่ในแดนลบ แต่ได้รับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงานและแบงก์เข้ามามากโดยเฉพาะในช่วงบ่าย แนวโน้มตลาดพรุ่งนี้น่าจะไปต่อได้ให้แนวรับที่ 1,585-1,590 จุด และแนวต้าน 1,603-1,608 จุด
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 857.22 ลบ.(SET+MAI)
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และอดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้ความเห็นว่า ในปัจจุบันถือว่าธปท.สามารถดูแลเงินบาทได้ดี เห็นได้จากเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับปัจจุบันซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสม ส่วนการเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่านั้น อาจไม่ได้ช่วยชะลอเงินทุนไหลเข้าเท่าใดนัก
- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้เตรียม 4 มาตรการเพื่อดูแลปัญหาการแข็งค่าของเงินบาทหากมีความจำเป็น แต่ยังไม่ได้นำมาใช้ในขณะนี้ โดยบางมาตรการ ธปท.สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองในทันที ขณะที่มาตรการอื่น ๆ ยังต้องแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งกระทรวงการคลังพร้อมจะสนับสนุนเพื่อให้มาตรการเหล่านั้นพร้อมใช้งานได้
- นายกรัฐมนตรีมอบหมายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีเงินบาทแข็งค่าที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งภาคการส่งออก ภาคอุตสาหกรรม และภาคการเกษตร โดยขอให้รายงานผลความคืบหน้าต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทุกสัปดาห์
- กระทรวงการคลังอิตาลีเผยรายได้จากการจัดเก็บภาษีในไตรมาสแรกปีนี้ปรับลง 0.3% แตะ 8.78 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.14 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลง 223 ล้านยูโรจากช่วงไตรมาส 1 ปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างยืดเยื้อ
- กระทรวงการจ้างงานและสวัสดิการสังคมของสเปนเปิดเผยว่า จำนวนผู้ว่างงานในสเปนลดลง 46,050 คน มาอยู่ที่ 4,989,193 คนในเดือนเม.ย. โดยปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นทั่วสหรัฐมีจำนวนลดลงในเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยอาจจะชะลอความแรงลง
- นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ยอดการส่งออกของจีนในเดือนเม.ย.จะขยายตัว 9.1% ซึ่งขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 5 เดือน ส่วนการนำเข้าคาดว่า จะขยายตัว 13% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 14%