ค่าเงินพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3085 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3078 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5487 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5544 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 1.0187 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0243 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.98 เยน จากระดับ 99.41 เยน แต่ขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ yen 0.9400 ฟรังค์ จากระดับ 0.9384 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีพุ่งขึ้นสวนทางคาดการณ์ในเดือนมี.ค. โดยยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนมี.ค. จากสถิติเดือนก.พ. บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีเริ่มกลับมาขยายตัวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยูโรลดแรงบวกในระหว่างวัน หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อสกัดภาวะถดถอยของเศรษฐกิจยุโรป หลังจากที่อีซีบีได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมครั้งล่าสุด
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและแนวโน้มที่มีความผันผวนมากขึ้นของเศรษฐกิจโลก
กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยยอดเกินดุลงบประมาณเดือนเม.ย.ในเวลา 01.00 น.ตามเวลาไทยในวันเสาร์นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าสหรัฐจะมียอดเกิน ดุลงบประมาณที่ 1.065 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. หลังจากขาดดุล1.070 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค.