(เพิ่มเติม) เงินบาทเช้านี้ทรงตัว 29.35/37 แต่แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 9, 2013 11:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ทรงตัวในระดับเดียวกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ 29.35/37 บาท/ดอลลาร์ และเมื่อเวลา 08.45 น.เงินบาทปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 29.32/34 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค หลังตัวเลขเศรษฐกิจทางสหภาพยุโรปออกมาดี
"หลังเปิดตลาดเงินบาทแข็งค่าตามภูมิภาค ประกอบกับมีแรงขายดอลลาร์ออกมา และ capital inflow" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 29.20-29.40 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทน่าจะแกว่งตัวในกรอบ แต่ทิศทางแข็งค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 29.4280 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.29634%

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.82/86 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 98.90/93 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3160/3162 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3143/3144 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 29.5500 บาท/ดอลลาร์
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เผยได้นัดประชุมร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการภาคเอกชนกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เพื่อหารือถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทในวันที่ 13 พ.ค.นี้ และหาทางออกในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน และขณะนี้ยังไม่อยู่ในจังหวะที่จะต้องออกมาตรการใดเพิ่มเติมสำหรับการดูแลค่าเงินบาท แต่จะให้มีการทำงานร่วมกันจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องภายใต้กรอบกฎหมายที่มีอยู่ จากก่อนหน้านี้ กนง.จะคำนึงถึงเสถียรภาพด้านราคาโดยยึดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นหลักการ แต่ขณะนี้มองว่าการแข่งขันทางการค้าและปริมาณเงินในโลกที่จะส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน จำเป็นต้องทำความเข้าใจร่วมกันว่าควรจะมีเป้าหมายของอัตราแลกเปลี่ยนให้สามารถแข่งขันได้ด้วย ไม่ใช่เป็นการยึดค่าเงินบาทที่เทียบกับดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่ต้องอิงกับสกุลเงินของคู่ค้าและคู่แข่งด้วย
  • ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท.ย้ำถึงแนวทางปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่าว่า แม้อัตราดอกเบี้ยจะเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่สามารถใช้ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนได้ แต่ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยมีภาระหนักที่จะต้องดูแลดุลยภาพเศรษฐกิจในประเทศ และถือเป็นความยากลำบากของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ที่ต้องพยายามรักษาดุลยภาพดังกล่าว
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังได้รับแรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความแข็งแกร่งของข้อมูลการค้าของจีนและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.56 เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 1.04% ปิดที่ 96.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน มิ.ย.56 ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 104.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(8 พ.ค.) ขานรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งของเยอรมนี ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3160 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3085 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5543 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5487 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 1.0173 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0187 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.81 เยน จากระดับ 98.98 เยน และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9354 ฟรังค์ จากระดับ 0.9400 ฟรังค์
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย เผยตัวเลขจ้างงานเดือน เม.ย.56 เพิ่มขึ้น 50,100 รายจากเดือนก่อนหน้า และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.5% จาก 5.6% สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานของออสเตรเลียสามารถรับมือกับแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศที่ซบเซาได้
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 4 โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบ หลังราคาโลหะปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันหุ้นนิวส์คอร์ปในตลาดหุ้นออสเตรเลียก็ปรับตัวสูงขึ้น หลังบริษัทมีกำไรสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.1% แตะที่ 143.66 จุด เมื่อเวลา 9.27 น.ตามเวลาโตเกียว
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 2.5% ในการประชุมวันนี้ เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน โดยระบุว่าทิศทางของเงินเยนในอนาคตมีความไม่แน่นอนมากขึ้น
  • ราคาทองคำตลาดลอนดอนปิดวันทำการล่าสุด(8 พ.ค.) ที่ 1,468 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 122 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 13,660 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง หรือเทียบเท่ากับ 1,477.63 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 13.2 ดอลลาร์สหรัฐ
  • กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3.61 พันล้านดอลลาร์จากเดือนก่อน แตะระดับ 1.25796 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือน เม.ย.56 โดยปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแข็งค่าของเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้ทรัพย์สินภายใต้การถือครองญี่ปุ่นในสกุลเงินยูโรมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และจากการเพิ่มขึ้นของรายได้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่รัฐบาลญี่ปุ่นถือครองอยู่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ