เงินบาทปิด 29.71/73 แข็งค่า หลังยังไม่มีมาตรการดูแลบาท คาดพรุ่งนี้แกว่งแคบ

"บาทแกว่งๆขึ้นลงตามดีมานด์ซัพพลายในตลาด แต่ที่เงินบาทแข็งค่าลงมาเล็กน้อยหลังรู้ผลการประชุมร่วมกันระหว่างรมว.คลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ซึ่งที่ประชุมฯเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกันมากกว่า แต่ไม่ได้พูดถึงมาตรการและการลดดอกเบี้ย"นักบริหารเงินกล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า ทิศทางค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้จะยังคงแกว่งแคบๆ เป็นไปได้ทั้งอ่อนค่าและแข็งค่า มองกรอบการเคลื่อนไหวบวก/ลบจากวันนี้ประมาณ 15 สตางค์

*ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.66/70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 101.84/86 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 10.2982/2985 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.2971/2974 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,617.73 จุด ลดลง 4.75 จุด, -0.29% มูลค่าการซื้อขาย 42,757 ล้านบาท
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,619.93 ลบ.(SET+MAI)
• บรรยากาศการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลัง, คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.), ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และภาคเอกชน 3 สถาบันในวันนี้ ผ่านไปอย่างราบรื่น แต่ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้น ยังไม่มีการพูดถึงการออกมาตรการใดๆ เพื่อแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่า ตลอดจนไม่ได้พูดถึงแนวทางการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่เป็นเพียงการหารือในภาพรวมของเศรษฐกิจ และความท้าทายของเศรษฐกิจโลกที่จะต้องเผชิญในระยะกลางและระยะยาว รวมทั้งความต้องการของภาคเอกชนที่ขอให้ช่วยดูแลเงินบาทให้มีเสถียรภาพและไม่ผันผวน โดยเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันใน 4 เรื่องสำคัญ คือ 1.การใช้จ่ายภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ 2.การสร้างบรรยากาศการลงทุนให้เกิดการลงทุนใหม่หรือขยายการลงทุนเดิม 3.ทิศทางและกำลังซื้อของผู้บริโภค 4.สถานการณ์การส่งออกและการท่องเที่ยว
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 187 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 13,333 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,442.08 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ร่วงลง 20.23 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
• กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า รายได้ทางการคลังของจีนในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบรายปี แตะ 1.14 ล้านล้านหยวน (1.8366 แสนล้านดอลลาร์)