เงินบาทปิด 29.71/72 แกว่งแคบ รอดูทิศทางดอลล์-ประชุมกนง.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 15, 2013 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 29.71/72 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 29.71/73 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่างวันแข็งค่าสุดที่ระดับ 29.69 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 29.76 บาท/ดอลลาร์ ระยะนี้คงต้องจับตาดูสกุลเงินอื่นเป็นหลัก โดยเฉพาะสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับหลายสกุลเงิน

"ช่วงนี้ปัจจัยในประเทศอ่อนแรงลงไป อาจจะไปให้น้ำหนักอีกครั้งในช่วงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ช่วงสิ้นเดือนนี้" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.60-29.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดวันนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.50 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2882 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,630.09 จุด เพิ่มขึ้น 6.61 จุด(+0.41%) มูลค่าการซื้อขาย 54,461.68 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแนวเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ขึ้นตามตลาดสหรัฐฯ รับแรงซื้อของต่างชาติที่เริ่มกลับเข้ามาในกลุ่มที่มีการเติบโตในประเทศ และรับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง-บาทอ่อนค่า
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 4,640.57 ลบ.(SET+MAI)
  • นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ จะประชุมร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์จากทั่วโลก ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ เพื่อรับทราบสถานการณ์การส่งออกในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งประเมินการส่งออกในปีนี้ว่าจะขยายตัวได้ตามที่คาดไว้ที่ร้อยละ 8-9 หรือไม่
  • ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดทรงตัววันนี้ หลังจากที่ดัชนีของภูมิภาคปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.51 เมื่อวานนี้ ขณะที่บริษัทเอกชนได้ทยอยรายงานผลประกอบการ
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของยุโรป(ยูโรสแตท) รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2556 ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2555 แต่หากเทียบกับช่วงไตรมาส 1/2555 เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลง 1.0%

ส่วน GDP ของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ในช่วงไตรมาสแรกลดลง 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้า และอ่อนแรงลง 0.7% เมื่อเทียบรายปี ข้อมูลจีดีพีในวันนี้ตอกย้ำให้เห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจภูมิภาคยังคงย่ำแย่ ซึ่งส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.50% ในการประชุมเมื่อต้นเดือนนี้

  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) เตรียมอัดฉีดเงินจำนวน 2.8 ล้านล้านเยนเข้าสู่ตลาดเงิน เพื่อที่จะสกัดการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งจากจำนวนงบทั้งหมดนั้น BOJ จะจัดสรรเงินเข้าสู่การดำเนินการระยะเวลา 1 ปี วงเงิน 2 ล้านล้านเยน และการดำเนินการระยะเวลา 1 เดือนอีก 8 แสนล้านเยน
  • มูดีส์ ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มองว่าการอ่อนค่าของเงินเยนจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อคุณภาพความน่าเชื่อถือของกลุ่มผู้ส่งออกเกาหลีใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกำลังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงกับผู้ส่งออกของญี่ปุ่น
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนเม.ย. เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงหลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นดีดตัวสูงขึ้น และจุดประกายความหวังว่าเศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัวขึ้น
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ไตรมาสแรกปีนี้จำนวนผู้ว่างงานในอังกฤษเพิ่มขึ้น 15,000 คน ซึ่งส่งผลให้มีจำนวนผู้ว่างงานทั้งสิ้น 2.52 ล้านคน ขณะที่อัตราว่างงานในช่วงไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 7.8% สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในเดือนเม.ย.ลดลง 7,300 ราย ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ที่ 4.5%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ