เงินบาทปิด 29.75/77 ยังแกว่งแคบ สัปดาห์หน้ารอกนง.-ทิศทางเงินดอลล์

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 17, 2013 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 29.75/77 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 29.74/75 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามแรงซื้อขายในตลาด ระหว่างวันเงินบาทไปทำโลว์ที่ระดับ 29.70 บาท/ดอลลาร์ และทำไฮที่ระดับ 29.85 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทแกว่งตัวในกรอบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ชัดเจน ตลาดค่อนข้างบางเลยปรับตัวไปตามแรงซื้อขาย" นักบริหารเงิน กล่าว

นักลงทุนรอดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ว่าจะพิจารณาเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นอย่างไร

นักบริหารเงิน มองทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าหากดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่าอยู่ เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าไปได้เรื่อยๆ หากสามารถทะลุระดับ 29.85 บาท/ดอลลาร์ไปได้ก็มีโอกาสที่จะอ่อนค่าจนแตะที่ระดับ 30.00 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.40/43 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.35/37 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2885/2886 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2867/2869 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET วันนี้ปิดที่ระดับ 1,627.96 จุด เพิ่มขึ้น 10.07 จุด, +0.62% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 55,303.53 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 390.58 ล้านบาท(SET+MAI)
  • นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต.เผยผลศึกษาของ Morningstar ถึงประสบการณ์การลงทุนในกองทุนรวมของนักลงทุนจำนวน 24 ประเทศทั่วโลกในปี 56 ประเทศไทยจัดอยู่ในระดับ B หรือลำดับที่ 3 รองจากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เนื่องจากการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน เช่น การยกเว้นภาษีส่วนต่างกำไร การให้ลดหย่อนภาษีเงินได้จาการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนสูงขึ้น ส่งผลให้การประเมินในหมวดกฎเกณฑ์การกำกับดูแลและภาษีอยู่ระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับหมวดอื่น
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย วันที่ 10 พ.ค.56 อยู่ที่ 176.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 3 พ.ค.56 ที่ 177.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 10 พ.ค.56 อยู่ที่ 23.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับวันที่ 3 พ.ค.56 อยู่ที่ 23.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 10 พ.ค.56 อยู่ที่ 5,231.4 พันล้านบาท จาก 5,258.3 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 3 พ.ค.56
  • นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน เม.ย.56 อยู่ที่ 67,641 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย.55 ร้อยละ 22.02 แต่ลดลงจากเดือน มี.ค.56 ร้อยละ 34.16 โดยมีมูลค่าการส่งออก 30,607.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย.55 ร้อยละ 15.43 ทั้งนี้ในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.56 มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 351,607 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 55 ร้อยละ 27.32 โดยมีมูลค่าการส่งออก 156,249.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 55 ร้อยละ 20.86
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สศค.เผยรายได้สุทธิของรัฐบาลในเดือน เม.ย.56 จัดเก็บได้ 127,581 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 10,585 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.0 ส่วนในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556(ต.ค.55-เม.ย.56) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,105,397 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 104,426 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.4
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.56 อยู่ที่ 92.9 ลดลงจากเดือน มี.ค.56 ซึ่งอยู่ที่ 93.5 โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาท และเป็นการแข็งค่ากว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวน ทำให้การรับคำสั่งซื้อในช่วงนี้เป็นด้วยความยากลำบาก
  • นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทมีแนวโน้มปรับตัวแข็งค่าได้อีก เนื่องจากหลายประเทศยังใช้นโยบายเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจของตนเองอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้นอยากให้ภาครัฐดูแลค่าเงินบาทให้เกิดเสถียรภาพในระยะยาว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก รวมถึงผู้ประกอบการขนาดเล็กจากปัญหาค่าเงินบาทที่มีความผันผวน
  • กระทรวงอุตสาหกรรมจะเชิญสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมเอสเอ็มอี ร่วมหารือ เพื่อรวบรวมผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท เพื่อหามาตรการรองรับผลกระทบ แม้ขณะนี้ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่ามาอยู่ที่ 29.80 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังแข็งค่ากว่าค่าเงินในภูมิภาค และผู้ประกอบการ ยังเป็นห่วงว่า ค่าเงินบาทขณะนี้จะมีเสถียรภาพมากน้อยเพียงใด
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) จะส่งคณะทำงานไปยังสเปนในสัปดาห์หน้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรายงานการกำกับดูแลภาคการธนาคารของสเปน
  • สำนักงานวิสาหกิจระหว่างประเทศของสิงคโปร์ เผยยอดส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันของสิงคโปร์ในเดือน เม.ย.ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องหลังจากที่หดตัวลง 4.8% ในเดือน มี.ค.ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งมีสาเหตุหลักจากยอดส่งออกสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ที่ลดลง 9% ในเดือน เม.ย.แต่ยังปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ดิ่งลง 17.9%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ