ก.คลังเผยผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนเม.ย.56

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 27, 2013 12:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนเมษายน 2556 ว่า ด้านการบริหารจัดการหนี้รัฐบาลนั้น ในส่วนของการกู้เงินในประเทศของรัฐบาลในเดือนเมษายน 2556 กระทรวงการคลังได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 13,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ 54.28 ล้านบาท การเบิกจ่ายเงินกู้ 2,600 ล้านบาท จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 10,000 ล้านบาท ที่ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 30 เม.ย.55 ภายใต้ พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศฯ

ประกอบกับการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยกู้ต่อจำนวน 410.48 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และจำนวน 101.45 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมทั้งการเบิกจ่ายเงินกู้ เพื่อให้การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้ต่อ จำนวน 297.72 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล(สายสีแดง) บางซื่อ-รังสิต

ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลนั้น กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 1) ที่ครบกำหนดจำนวน 17,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลทั้งจำนวน นอกจากนี้ ได้มีการออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 11,000 ล้านบาท เพื่อนำไปคืนเงินกู้ระยะสั้น 11,000 ล้านบาท ที่ได้นำไปปรับโครงสร้างหนี้ในเดือนก่อนหน้า

การปรับโครงสร้างหนี้ต่างที่กระทรวงการคลังค้ำประกันในเดือนเมษายน 2556 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ของ JICA ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จำนวน 28,869.63 ล้านเยน โดยแบ่งเป็น 1.การออกตั๋วสัญญาใช้เงินของกระทรวงการคลัง จำนวน 9,300 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 และ 2.รายได้ของ รฟม.จำนวน 34.24 ล้านบาท

ด้านการชำระหนี้ของรัฐบาลในเดือนเมษายน 2556 กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้เป็นเงิน จำนวน 6,007.38 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การชำระหนี้ของรัฐบาลจากงบประมาณชำระหนี้รวม 2,259.05 ล้านบาท ดังนี้ ชำระหนี้ในประเทศ 1,773.28 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ย 1,737.28 ล้านบาท และค่าธรรมเนียม 36 ล้านบาท ชำระหนี้ต่างประเทศ 485.77 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 327.78 ล้านบาท และดอกเบี้ย 157.99 ล้านบาท

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้โดยใช้เงินจากแหล่งอื่น ดังนี้ การชำระหนี้ที่กู้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ(FIDF 1) โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 2 จำนวน 2,672.40 ล้านบาท เพื่อชำระดอกเบี้ย, การชำระหนี้ที่กู้ภายใต้ พ.ร.ก.ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ(FIDF 3) โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 2 จำนวน 1,075.93 ล้านบาท เพื่อชำระดอกเบี้ย

ทั้งนี้ แหล่งเงินที่นำเข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 2 ประกอบด้วย (1) เงินกำไรสุทธิของธนาคารแห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 (2) เงินที่สถาบันการเงินนำส่งธนาคารแห่งประเทศ (3) เงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และ (4) เงินโอนจากบัญชีกองทุนเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ฯ

ส่วนการบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจนั้น พบว่า ในเดือนเมษายน 2556 รัฐวิสาหกิจได้มีการกู้เงินในประเทศเป็นเงิน 1,400 ล้านบาท ขณะที่การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจเดือนเมษายน 2556 รัฐวิสาหกิจได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 11,600 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ