นักวิเคราะห์ทั้งสองคนมองว่า นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุในขณะนี้ว่าเฟดจะพิจารณาทบทวนอัตราการซื้อสินทรัพย์หลังจากมีการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะมีการเปิดเผยต่อไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เฟดได้พยายามหนุนการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำในอนาคตด้วยการให้คำมั่นที่จะยังคงผ่อนคลายนโยบายไปจนถงปี 2558
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ทั้งสองกล่าวว่า ข้อมูลที่กำลังจะมีการเปิดเผยมี "ความอ่อนไหวอย่างมาก" ตลอดช่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในครั้งนี้ ขณะที่การใช้ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของอัตราจ้างงานเฉลี่ยในข่วง 6 เดือนเพื่อคาดการณ์อัตราว่างงานในอนาคตนั้น บ่งชี้ถึงมาตรวัดที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับแนวโน้มที่เฟดจะบรรลุเป้าอัตราว่างงานที่ 6.5%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การซื้อสินทรัพย์ไม่ใช่เครื่องมือที่แม่นยำ ดังนั้น แนวความคิดเกี่ยวกับการพิจารณาทบทวนโครงการซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวตามข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนไหวนั้น ถือเป็นความคิดที่แย่มาก
นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน เฟดได้ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณไปแล้ว 2 รอบ หรือที่เรียกว่า QE1 และ QE2 ด้วยการเข้าซื้อหลักทรัพย์ของรัฐบาล และซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) วงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ส่วนในปัจจุบัน เฟดกำลังดำเนินโครงการ QE3 ด้วยการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ไปจนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 6.5% จากปัจจุบันที่ระดับ 7.5% สำนักข่าวซินหัวรายงาน