ทั้งนี้ส่วนที่ได้รับความเสียหาย เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างกระบวนการผลิต และกระแสไฟฟ้ากระชากทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย เช่น คอมพิวเตอร์, มอเตอร์ ระบบควบคุมการผลิต และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับใน 14 จังหวัดภาคใต้ ได้มีการหารือร่วมกันถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยมีข้อสรุปว่า ผู้ประกอบการยังสามารถรับภาระและช่วยเหลือตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐแต่อย่างใด เนื่องจากระยะเวลาที่ไฟฟ้าดับเป็นระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 2-5 ชั่วโมง
แต่ทั้งนี้ ขอให้ภาครัฐให้ความสนใจและจริงใจในมาตรการ 4 ข้อที่สภาอุตสาหกรรมภาคใต้ได้นำเสนอไปแล้ว คือ 1.ขอให้ภาครัฐดำเนินการจัดหา/จัดเตรียมพลังงานสำรองให้เพียงพอต่อปริมาณความต้องการใช้ในอนาคต ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน ซึ่งมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
2.ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีศักยภาพสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองในสถานประกอบการ เช่น การผลิตไฟฟ้าชีวภาพ ชีวมวล โดยการใช้วัสดุ/กากของเหลือจากกระบวนการผลิต ตลอดจนให้การสนับสนุนค่าส่วนต่างให้เหมาะสม เป็นไปได้ต่อการลงทุนผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อจำหน่าย
3.ขอให้ภาครัฐให้ความจริงใจในการปรับปรุง แก้ไข กฎ ระเบียบว่าด้วยการอนุญาตให้ก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองหรือจำหน่ายในพื้นที่ใกล้เคียง ให้มีความกระชับ สะดวก รวดเร็วในรูปแบบ One Stop Services
4.ขอให้ภาครัฐให้การสนับสนุน ส่งเสริมเรื่องสิทธิทางภาษี เช่น ภาษีนำเข้าอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า