SCB EIC คาดศก.ไทยปีนี้โต 5%,บาทยังแข็งค่า,กนง.คงดอกเบี้ย 2.50% ถึงสิ้นปี

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 31, 2013 15:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB EIC) ประเมินเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ 5.0% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการลงทุนภาครัฐที่ยังขยายตัวได้ดี และโครงการตามแผนบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจะสนับสนุนให้การลงทุนภาครัฐเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้การส่งออกที่น่าจะมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นในช่วงหลังของปีจะช่วยสนับสนุนให้ภาคการผลิตและการใช้จ่ายภาคเอกชนยังสามารถขยายตัวได้ดี และเศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตที่ระดับ 5.0% ได้

ส่วนภาวะเงินเฟ้อในปีนี้ คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ราว 2.8% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6% โดยปัจจัยเสี่ยงกดดันเงินเฟ้อในระยะต่อไปยังคงมีน้อย เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังทรงตัวตามอุปสงค์โลกที่อ่อนแอ และอุปทานจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปคที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ไม่น่าจะมีแรงกดดันต่อราคาพลังงานซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของเงินเฟ้อทั่วไป

นอกจากนี้ แผนการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) ให้เป็นไปตามกลไกตลาดของภาครัฐยังคงไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด โดยเฉพาะในเรื่องมาตรการเยียวยาผู้ที่มีรายได้น้อย การปรับขึ้นราคาจึงอาจล่าช้าไปจากเดิม และแม้ว่าราคา LPG จะมีโอกาสปรับขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ก็เป็นการทยอยปรับขึ้นเฉพาะภาคครัวเรือนก่อนเท่านั้น ทำให้แรงกดดันต่อระดับราคาในระยะต่อไปน่าจะบรรเทาลงไปบ้าง

SCB EIC ยังกล่าวถึงแนวโน้มเงินบาทว่า จากความผันผวนของค่าเงินบาทลดน้อยลงภายหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ความไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากมุมมองต่ออัตราแลกเปลี่ยนและมาตรการที่อาจนำมาใช้โดยทางการไทย ได้ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีความผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ทำให้ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินลดลงในระดับหนึ่ง และจะส่งผลให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าในระยะต่อไปจากกระแสเงินทุนไหลเข้า การดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มปริมาณเงินของสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นจะยังส่งผลให้เงินทุนยังคงหลั่งไหลมายังไทยและตลาดเกิดใหม่อื่นๆ อีกทั้งศักยภาพและแนวโน้มการขยายตัวที่ดีของเศรษฐกิจไทยจะยังคงดึงดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศในรูปการลงทุนโดยตรง ส่งผลให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้ค่าเงินบาทจะอยู่ที่ระดับ 28.50-29.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดย ธปท.จะยังดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนในระยะสั้น ทั้งนี้ทางการอาจมีมาตรการควบคุมเงินทุนไหลเข้าในระยะถัดไป หากค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าเร็วขึ้นกว่าสกุลเงินในภูมิภาค

ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น SCB EIC ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.75% มาเหลือ 2.50% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งล่าสุด บ่งชี้ถึงความกังวลต่อแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศที่ขยายตัวน้อยกว่าที่คาดในไตรมาสแรก ภายใต้ภาวะที่เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังคงไม่ฟื้นตัวดี ทั้งนี้คาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งแรงกดดันจากเงินเฟ้อน่าจะยังอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ กนง.ได้แสดงความกังวลต่อหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่เห็นว่าการขยายตัวในระดับสูงของหนี้ภาคครัวเรือน โดยเฉพาะจากการให้สินเชื่อในภาคอสังหาริมทรัพย์ อาจกลายเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ดังนั้นในภาวะดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีมาตรการ Macroprudential measures เพื่อกำกับการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะภาคเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ