ทั้งนี้ คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินภาครัฐ ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานได้แต่งตั้งอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นคณะทำงานพิจารณาอนุมัติให้ขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันชุดที่ 1 โดยพิจารณารายการที่ขอผ่อนผันเข้ามาทุกรายการซึ่งได้มีการประชุมกันวันที่ 7 มิถุนายน 2556 มีส่วนราชการจำนวน 297 แห่งที่ชี้แจงมาและเข้าหลักเกณฑ์การพิจารณา 5 ข้อ จำนวน 1,237 รายการ เป็นเงิน 31,392.35 ล้านบาท แบ่งเป็น
1.รายการที่ประกวดราคาแล้วแต่ยังไม่ได้ผู้รับจ้างทำให้ต้องดำเนินการประกวดราคาใหม่ หรือบางส่วนอยู่ระหว่างขออนุมัติ กวพ.อ. เพื่อจัดซื้อจัดจ้างวิธีอื่น จำนวน 385 รายการ จำนวนเงิน 5,085.29 ล้านบาท
2.โครงการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีผลการจัดซื้อจัดจ้างแล้วต้องเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนลงนามในสัญญา จำนวน 261 รายการ จำนวนเงิน 4,676.25 ล้านบาท
3.รายการที่อยู่ระหว่างปรับปรุง TOR หรือแก้ไขรูปแบบรายการก่อสร้างตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 33 รายการ จำนวนเงิน 4,530.23 ล้านบาท
4.รายการที่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแล้วแต่งบประมาณไม่เพียงพอและอยู่ระหว่างการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณเปลี่ยนแปลงสถานที่ดำเนินการและเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จำนวน 107 รายการ จำนวนเงิน 810.33 ล้านบาท
5.รายการที่ได้ผลการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว แต่ต้องรอผลจากผู้มีอำนาจอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุ จำนวน 451 รายการ จำนวนเงิน 16,290.25 ล้านบาท
“จากการประชุมคณะทำงานฯ ได้ข้อสรุป คือ อนุมัติให้ขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันรายการที่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว จำนวน 1,237 รายการ เป็นเงิน 31,392 ล้านบาท โดยต้องก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2556 ซึ่งกรมบัญชีกลางจะมีหนังสือแจ้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจทั้ง 297 แห่งทราบภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อจะได้ดำเนินการ จัดซื้อจัดจ้างต่อไป" นายมนัส กล่าว
สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2556 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เบิกจ่ายภาพรวมจำนวน 1,037,255.60 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน จำนวน 168,759.83 ล้านบาท หรือร้อยละ 46.14 สูงกว่าเป้าหมาย (เป้าหมายร้อยละ 41) ซึ่งการพิจารณาอนุมัติให้ขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันครั้งนี้จะทำมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น