(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 30.95/97 มองแนวโน้มอ่อนค่าต่อ จับตาเงินไหลออก

"วันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ วิ่งตาม regional currency และ major currency ค่อนข้างเยอะ...ต้องดูปัจจัยเรื่อง flow ที่ไหลออกด้วย" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 30.90-31.10 บาท/ดอลลาร์

"แนวโน้มยังปรับตัวอ่อนค่า ถ้าหลุดแนวต้าน 30.10 บาท/ดอลลาร์ ไปได้ก็จะกลับไป test ไฮเดิมที่ระดับ 31.18 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 31.0200 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.19763%

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 94.66/68 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 96.48/57 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3363/3365 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3292/3293 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดเช้านี้ดิ่งลงกว่า 51 จุด หรือ 3.57% หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,400 จุด ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียที่ร่วงลงหนักในเช้าวันนี้ ตอบรับการปรับตัวลดลงของดัชนีหุ้นดาวโจนส์เมื่อคืนนี้กว่า 100 จุด หลุดระดับ 15,000 จุด โบรกฯ มองแรงขายต่างชาติยังมีต่อเนื่อง และถูกกระหน่ำซ้ำเติมด้วยแรง panic sell ของนักลงทุนในประเทศ โดยเมื่อเวลา 09.57 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,382.29 จุด ลดลง 51.18 จุด (-3.57%)
• นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ระบุดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลง เพราะก่อนหน้านี้มีเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนมาก ดังนั้นก็อาจจะมีการไหลออกบ้างเป็นปกติ ซึ่งมองว่าไม่น่ากังวล เพราะการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยในครั้งนี้เป็นผลกระทบจากภายนอกมากกว่า ไม่ได้เป็นผลจากปัจจัยภายใน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของประเทศยังแข็งแกร่ง ภาพรวมของเศรษฐกิจยังมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ดูแลค่าเงินให้ไม่มีความผันผวนมากนัก เพราะเป็นห่วงผู้นำเข้าว่าจะมีผลกระทบค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วเกินไป และควรต้องดูแลค่าเงินให้เคลื่อนไหวใกล้เคียงกับคู่ค้าคู่แข่ง ไม่ใช่เพียงเทียบกับสกุลดอลลาร์เพียงอย่างเดียว
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 102 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,910 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,396.51 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.03 ดอลลาร์สหรัฐ
• ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ทั่วโลกลงสู่ระดับ 2.2% ในปีนี้ จากคาดการณ์ไว้เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาว่าจะขยายตัว 2.4% เนื่องจากเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ รวมถึงจีนและบราซิล ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจยุโรปอันเนื่องมาจากการปรับลดงบประมาณรายจ่ายและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่หดตัวลง ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์ GDP ทั่วโลกในครั้งนี้ ส่วนในปี 2557 คาดว่าจะขยายตัว 3.0% และขยายตัว 3.3% ในปี 2558
• กระทรวงการคลังของสหรัฐ เผยรัฐบาลกลางขาดดุลงบประมาณ 1.387 แสนล้านดอลลาร์ในเดือน พ.ค. นับเป็นยอดขาดดุลงบประมาณรายเดือนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. หลังจากรัฐบาลกลางมียอดเกินดุลงบประมาณ 1.129 แสนล้านดอลลาร์ในเดือน เม.ย. โดยยอดขาดดุลงบประมาณในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณปัจจุบันที่เริ่มในเดือน ต.ค.ปีที่แล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 6.263 แสนล้านดอลลาร์
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ หลังเวิลด์แบงก์ปรับลดคาดการณ์ GDP ทั่วโลก โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 1.2% เมื่อเวลา 9.52 น.ตามเวลาโตเกียว นับว่าลดลงมากที่สุดในรอบ 6 วัน, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 13,038.02 จุด ลดลง 251.30 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,190.10 จุด ลดลง 20.80 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,069.26 จุด ลดลง 285.40 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,041.50 จุด ลดลง 74.65 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,905.10 จุด ลดลง 4.81 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,127.14 จุด ลดลง 26.34 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,457.83 จุด ลดลง 98.82 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,773.68 จุด ลดลง 1.44 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,713.90 จุด ลดลง 10.60 จุด
• ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% ในการประชุมวันนี้ เพื่อประเมินผลที่มีต่อเศรษฐกิจที่ซบเซา จากการการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก่อนหน้า
• สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(12 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐซึ่งจะเป็นข้อมูลบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรหรือไม่ โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 95.69 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 96.14 เยน และขยับลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9221 ฟรังค์ จากระดับ 0.9245 ฟรังค์, ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3329 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3307 ดอลลาร์สหรัฐ, ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5576 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5641 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9488 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9443 ดอลลาร์สหรัฐ
• ธนาคารกลางนิวซีแลนด์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.5% ในการประชุมวันนี้ และคาดว่าอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าวไปจนถึงสิ้นปีนี้
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของกรีซ หลังจาก MSCI Inc. ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ได้ปรับลดสถานะของกรีซลงสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศกรีซ หลังจากมีรายงานว่าสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลได้ถูกปิดการดำเนินงานเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.4% ปิดที่ 290.68 จุด, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,299.45 จุด ลดลง 40.63 จุด หรือ -0.64%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,143.27 จุด ลดลง 79.19 จุด หรือ -0.96% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,793.70 จุด ลดลง 16.86 จุด หรือ -0.44%
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) เดือน ก.ค.ปรับตัวลง 41 เซนต์ แตะที่ 95.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ หลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้ และจากการที่สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาด
• ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดระหว่างวันในรอบ 1 เดือน เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นโตเกียวได้กระตุ้นให้มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดพันธบัตรจำนวนมาก โดยพันธบัตรหมายเลข 329 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ระดับ 0.795% ซึ่งลดลง 0.080% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้น 0.77 จุด แตะที่ระดับ 143.10 ในตลาดหุ้นโตเกียว