ปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ค.56 คือ การที่เงินบาทอ่อนค่าลงทำให้ผู้ประกอบการคลายความกังวล ประกอบกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งผู้ประกอบการมองว่าเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อีกทั้งพ.ค.56 มีวันทำงานมากกว่าเดือนเม.ย.56
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การเมืองในประเทศ ความผันผวนของค่าเงินบาที่กระทบต่อภาคการส่งออก รวมทั้งการบริหารต้นทุนประกอบการที่ปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในหลายอุตสาหกรรม
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 100.4 เพิ่มขึ้นจากระดับ 99.1 ในเดือนเมษายน ค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ
ดัชนีความเชื่อมั่นจำแนกตามขนาดของอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯของอุตสาหกรรมขนาดย่อม ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ปรับเพิ่มขึ้นทั้ง 3 ขนาด จากเดือนเมษายน
ด้านข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือนพฤษภาคมนี้ คือให้ภาครัฐ ส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายเพื่อเสริมสภาพคล่องโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs อีกทั้งพัฒนาและเพิ่มศักยภาพด้านวัตถุดิบ เทคโนโลยี ข้อมูลและช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงทางการเมือง และส่งเสริมการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน