นายดิจเซลโบลมกล่าวหลังการประชุมยูโรกรุ๊ปว่า กรีซต้องดำเนิน “มาตรการที่จำเป็นอันดับแรกๆ" อย่างเต็มที่ก่อนวันที่ 19 ก.ค. เพื่อที่จะสามารถอนุมัติการเบิกจ่ายเงินงวดต่อไปจำนวน 2.5 พันล้านยูโร
มาตรการที่จำเป็นอันดับแรกๆดังกล่าวรวมถึง การปฏิรูปสำคัญที่จำเป็นในการบรรเทาความเสี่ยงต่อแผนการช่วยเหลือทางการเงินระหว่างประเทศ และในการทำให้มีการขยายตัวและการจ้างงานอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างความมั่นคงแก่ฐานะการคลังสาธารณะ
นอกจากนี้ ประธานยูโรกรุ๊ปยังได้ชื่นชมความพยายามของกรีซ โดยกล่าวว่า “เราเห็นการปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในด้านศักยภาพการแข่งขันด้านต้นทุน, การเสริมความแข็งแกร่งอย่างมากด้านฐานะการคลัง และภาคการธนาคารที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นของกรีซ"
“ความคืบหน้าด้านเศรษฐกิจมหภาคสอดคล้องกับการคาดการณ์ของแผนการดังกล่าว และบ่งชี้ถึงการกลับมาขยายตัวอีกครั้งในปีหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณประการหนึ่งว่าความพยายามปรับโครงสร้างของกรีซได้เริ่มประสบผล" เขากล่าวเสริม
ทั้งนี้ ประธานยูโรกรุ๊ปกล่าวว่า ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศยูโรโซนจะสนับสนุนเงิน 2 พันล้านยูโร ซึ่ง 1.5 พันล้านยูโรจะมีการเบิกจ่ายในเดือนก.ค. และอีก 500 ล้านยูโรในเดือนต.ค.บนเงื่อนไขที่ว่ากรีซได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับบรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน