ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้มอบภารกิจให้แต่ละหน่วยงานไปดำเนินการรวม 6 แนวทาง ได้แก่ 1.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะวัตถุดิบหลัก ในการผลิตอาหารทั้งข้าวโพด ถั่วเหลือง ปุ๋ยเคมี เมื่อคุมต้นทุนการผลิตจะทำให้ราคาปลายทางปรับลดลงได้ 2.ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลการบริหารจัดการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพด้วยการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าตามแหล่งการผลิตและกระจายไปยังตลาดบริโภค
3.ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลัง ไปดูแลการจัดโซนนิ่งพื้นที่เพาะปลูกสินค้าเกษตรให้เหมาะสมกับแต่ละจังหวัด เช่น การปลูกอ้อย มันสำปะหลัง ข้าว พืชสำคัญทางเศรษฐกิจ 4.ป้องกันการผูกขาดสินค้าสำหรับวัตถุดิบหลัก เพื่อให้มีผู้ค้ารายใหม่เข้ามาในตลาดเพิ่มและป้องกันปัญหากำหนดราคาสูงเพราะมีผู้จำหน่ายน้อยราย
5.มอบหมายให้กระทรวงพลังงานดูแลแนวทางลดผลกระทบจากการปรับเพิ่มราคาแอลพีจี ด้วยการช่วยเหลือผู้บริโภคใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 90 หน่วยต่อเดือน และยังส่งเสริมให้ประชาชนหันไปใช้ก๊าซเอ็นจีวี โดยจะขยายสถานีบริการน้ำมันให้มีจำนวนมากขึ้น และ 6.มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ติดตามดูเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง หลังจากไอเอ็มเอฟปรับลดจีดีพีโลก จากร้อยละ 3.2 เหลือร้อยละ 3.1 ตลอดจนสหรัฐประกาศถอนมาตรการ QE เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาเพื่อดูแลไม่ให้การบริโภคชะลอตัว
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมธนารักษ์นำที่ราชพัสดุซึ่งอยู่ใกล้แหล่งชุมชนปรับปรุงเป็นพื้นที่ตลาดนัด หรือแหล่งกระจายสินค้า ลดปัญหาค่าแผงลอยราคาแพง หวังช่วยเหลือลดต้นทุนพ่อค้าแม่ค้า
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการประชุมเกี่ยวกับค่าครองชีพ ซึ่งจากการสำรวจสินค้าตามตลาดต่างๆ พบว่าราคาสินค้ายังไม่มีการปรับขึ้น ส่วนสินค้าที่มีการปรับราคาขึ้นมีน้อยมาก อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมขอให้แต่ละหน่วยงานดูแลปัญหาในระยะยาวเพราะว่าราคาสินค้าอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตามฤดูกาล โดยต้องดูให้ครอบคลุมทุกด้านทั้งต้นทุนการผลิต การขนส่ง และตลาด เป็นต้น
"จะมีประชุมคณะกรรมการอีก 2-3 ครั้ง เพื่อสรุปแนวทางช่วยเหลือการบริโภคที่ชะลอตัวในช่วงปัจจุบันด้วยการเข้าไปดูแลการผลิตสินค้าทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เมื่อสามารถดูแลได้ทุกขั้นตอนจะทำให้สามารถคุมราคาสินค้าไม่ให้ปรับสูงขึ้นกระทบต่อการบริโภคของประชาชน โดยอีก 2-3 สัปดาห์จะมีการกลับมาคุยกันอีกครั้ง" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว