นายกฯ เยือนโมซัมบิก-แทนซาเนีย-ยูกันดา เพื่อเปิดโอกาสการค้าการลงทุน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 26, 2013 11:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐโมซัมบิก สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย และสาธารณรัฐยูกันดา ระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-2 ส.ค.56 ซึ่งเป็นการเยือนเพื่อสร้างความสัมพันธ์และเปิดตลาดไทยในภูมิภาคแอฟริกา เนื่องจากทั้งสามเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง โดยนายกฯ และคณะจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันที่ 28 ก.ค.เวลา 08.30 น.เพื่อเดินทางไปยังท่าอากาศยาน Maputo International Airport กรุงมาปูโต สาธารณรัฐโมซัมบิก และเดินทางกลับประเทศไทยจากท่าอากาศยาน Entebbe International Airport นครเอ็นเทบเบ สาธารณรัฐยูกันดา ถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันศุกร์ที่ 2 ส.ค.56 เวลา 10.30 น.

สำหรับการเยือนสาธารณรัฐโมซัมบิกอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 28-29 ก.ค.56 ถือเป็นการเยือนประเทศแอฟริกาอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีไทยในรอบ 8 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการลงทุนของไทยในอุตสาหกรรมอัญมณี ซึ่งครั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้นำภาคเอกชนไทยเข้าไปแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีด้วย ทั้งนี้ โมซัมบิกมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงที่สุดประเทศหนึ่งในแอฟริกาตอนใต้ โดยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 1 ใน 10 ของโลก มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 7.9 และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีฯมีกำหนดการพบหารือทวิภาคีกับนายอาร์มันโด เอมิลิโอ กูเอบูชา ประธานาธิบดีโมซัมบิก การลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 5 ฉบับ การหารือกับประธานรัฐสภาโมซัมบิก และพิธีส่งมอบรถบรรทุก รถตุ๊กตุ๊ก ปลานิลแดง และมุ้งเคลือบสารกันยุงให้แก่โมซัมบิก

ส่วนการเยือนสหสาธารณรัฐแทนซาเนีย เป็นไปตามคำเชิญของนายจาคายา มริโช คิเควเต ประธานาธิบดีแทนซาเนีย และการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 33 ปี นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกันเมื่อปี 2523 โดยมุ่งกระชับความสัมพันธ์กับรัฐบาลแทนซาเนียและเสริมสร้างความร่วมมือในลักษณะของการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา(Development Partner) โดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านวิชาการและการพัฒนาศักยภาพในสาขาที่แทนซาเนียต้องการและไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ ก๊าซธรรมชาติ เหมืองแร่ และการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการอนุรักษ์สัตว์ป่า โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีฯ มีกำหนดการเข้าหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีแทนซาเนีย การร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 2 ฉบับ การกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ไทยต่อแอฟริกาและ Thai-African Initiative และการเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเซเรงเกติ

ขณะที่การเยือนสาธารณรัฐยูกันดา เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายโยเวรี คากูทา มูเซเวนี ประธานาธิบดียูกันดา ภายหลังประธานาธิบดียูกันดาเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลเมื่อวันที่ 16 พ.ย.55 โดยในการเยือนในครั้งนี้เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือในลักษณะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา โดยภาคเอกชนไทยจะเข้าไปให้ความรู้ในสาขาที่ไทยเชี่ยวชาญ อาทิ การเกษตรกรรม การประมง และสาธารณสุข รวมถึง การเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้า เศรษฐกิจ และการลงทุน เพื่อเป็นพื้นฐานในความร่วมมือระหว่างกันต่อไป

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีฯ จะนำภาคเอกชนในสาขาต่างๆ ได้แก่ สาขาพลังงานทดแทน สาขาการก่อสร้าง สาขาการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สาขาสิ่งทอ สาขาอัญมณีและเครื่องประดับ และสาขายานยนต์ ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานเพื่อแสวงหาลู่ทางการลงทุน รวมถึงการให้ความรู้ทางด้านวิชาการทั้งในสาธารณรัฐโมซัมบิก สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย และสาธารณรัฐยูกันดาด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ