นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รมว.พลังงาน กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ว่า การปรับขึ้นราคา LPG ภาคครัวเรือน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้กิโลกรัมละ 50 สตางค์ทุกเดือน รวม 6 บาท จะทำให้ราคาแก๊สเป็นราคาตามตลาด ณ โรงแยกแก๊ส ซึ่งสูงสุดคือก.ก.ละ 24.82 บาท เนื่องจากการอุดหนุนราคา LPG จนถึงวันนี้หมดเงินไป 1.4 แสนล้านบาท เป็นเงินจากกองทุนน้ำมัน และนับวันจะเพิ่มทวีคูณ นอกจากนี้มีการลักลอบไปขายตามชายแดนซึ่งจับได้ยาก ถังหนึ่งหิ้วไปก็ได้กำไร 300 บาท และการอุดหนุนก็ยังไม่เป็นธรรมต่อคนที่ใช้น้ำมัน จากที่ถูกเก็บไปไม่คุ้มกับเงินที่ไปอุดหนุน เพราะฉะนั้นการอุดหนุนเฉพาะคนจนที่จำกัดไว้ ก็จำกัดเงินที่อุดหนุน ทำให้เงินอุดหนุนน้อยลง ไม่ใช่ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การปรับขึ้นราคา LPG ครั้งนี้ จะไม่กระทบผู้มีรายได้น้อย 7.5 ล้านครัวเรือน หรือ 15 ล้านคน เพราะรัฐให้ความช่วยเหลือ อุดหนุนซื้อแก๊สในราคาเดิม โดยประชาชนกลุ่มนี้ สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้จากบิลค่าไฟที่จะแจ้งว่า มีสิทธิ์ซื้อแก๊สในราคาเดิมส่วนกรณีหาบเร่แผงลอยนั้น ทางรัฐบาลก็ได้อุดหนุนให้ด้วย ซึ่งมีหาบเร่แผงลอยจดทะเบียนแล้ว 168,529 ราย แต่ก็ยังมีที่ยังไม่มาจดทะเบียนอีก ก็สามารถเข้ามาได้ โดยแจ้งมาได้ที่ คอลเซ็นเตอร์ และแจ้งว่าจะลงทะเบียน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปสำรวจ รับจดทะเบียนได้ตลอด ส่วนการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้านั้น กระทรวงพลังงาน ได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์แล้วว่าต้องหามาตรการกวดขันต่อไป
"ที่กล้าตัดสินใจปรับขึ้นราคา เพราะทำตามข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ และต้องการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ เพราะประชาชนไม่ทราบว่าเอาเงินจากคนขี่มอเตอร์ไซด์ หรือเบนซิน หรือโซลาร์มาจ่ายอุดหนุนให้แอลพีจี มาอุดหนุนให้แล้วยังถูกลักลอบนำไปขาย เพราะฉะนั้นเวลาขึ้นราคา เราก็ขึ้นเฉพาะคนรวย คนรวยมีตังค์ ต้นทุนอาหารขึ้นแค่ 1% ก็ไม่น่ากระเทือนอะไร ส่วนการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้านั้น ได้คุยกับกระทรวงพาณิชย์แล้วว่าต้องหามาตรการกวดขัน เพราะยังมีการขายของเกินราคาอยู่หลายอย่าง กระทรวงพาณิชย์ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี แจ้งให้ประชาชนได้ทราบเช่นเดียวกัน"รมว.พลังงาน กล่าว