เงินบาทปิด 31.39/41 อ่อนค่าต่อเนื่อง จับตาสภาฯพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษฯพรุ่งนี้

"เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าจากประเด็นการเมืองในประเทศ ต้องรอดูสถานการณ์วันพรุ่งนี้" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ กรณีที่จะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

*ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.07/10 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 97.86/89 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3286/3287 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3262/3264 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,429.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.08 จุด, +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 28,585.22 ล้านบาท
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 997.01 ล้านบาท(SET+MAI)
• ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้มีมติเห็นชอบหลักการมาตรการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ แบ่งเป็น 4 ด้าน ได้แก่ มาตรการด้านการบริโภคภาคเอกชน มาตรการด้านการลงทุนเอกชน มาตรการด้านการใช้จ่ายภาครัฐ และมาตรการด้านการส่งออก โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง คาดมาตรการดังกล่าวจะช่วยดัน GDP ปีนี้โตเพิ่ม1% จากเดิมคาด 4-4.5%
• สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน อนุมัติ 33 โครงการ มูลค่าการลงทุน 243,313.3 ล้านบาท มี 7 โครงการใหญ่ขนาดการลงทุนเกิน 6 พันล้านบาท การบินไทยขยายกิจการขนส่งทางทางอากาศเช่าเหมาลำเครื่องบินรวม 40 ลำ มูลค่า 130,000 ล้านบาท ขณะที่กิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม 4 แห่ง ป้อนให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) มูลค่า 24,000 ล้านบาท
• นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ระบุหากการชุมนุมทางการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นหากเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย แม้จะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกระเทือนต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่หากสถานการณ์รุนแรงและบานปลายก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ทำให้ประชาชนลดพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยลง ทั้งนี้หากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองมีความรุนแรงสุดจนถึงในระดับที่จะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว หรือมีการแจ้งเตือนจากสถานทูตต่างๆ ให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ก็คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อ GDP ปีนี้ให้ลดลงถึง 0.5% โดยอาจโตเหลือเพียง 3.8% เท่านั้น
• นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ยืนยันเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้(7 ส.ค.) อย่างแน่นอน
• นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ(กปท.) เผยเตรียมยกระดับการชุมนุมในเวลา 09.00 น.วันพรุ่งนี้ โดยขณะนี้มีมวลชนเข้ามาร่วมกับกลุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าวันพรุ่งนี้น่าจะถึงหลักหมื่นคน ส่วนจะเคลื่อนทัพไปที่สภาเมื่อไหร่ ต้องรอมติที่ประชุมคณะเสนาธิการร่วม
• ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.ค.56 อยู่ที่ 80.03 ลดลงจาก 81.6 ในเดือน มิ.ย.56
• รัฐบาลญี่ปุ่น เผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนในเดือน มิ.ย. โดยดัชนีพ้อง เช่น ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนียอดค้าปลีก และดัชนีการจ้างงานใหม่ หดตัวลง 0.8 จุด แตะระดับ 105.2 ในเดือน มิ.ย.จากเดือน พ.ค.เมื่อเทียบกับฐาน 100 ของปี 2553 ขณะที่ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ซึ่งคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า ร่วงลง 3.7 จุด แตะ 107.0 ส่วนดัชนีชี้ตามเศรษฐกิจ ซึ่งชี้วัดสภาพเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาไม่นาน ขยับขึ้น 0.5 จุด แตะ 110.6
• ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดเพิ่มขึ้นวันนี้ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นโตเกียวได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายพันธบัตร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 329 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.780% เพิ่มขึ้น 0.010% จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน ก.ย.ลดลง 0.06 จุด สู่ระดับ 143.66 จุดที่ตลาดหุ้นโตเกียว
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ส่งมอบเดือน ก.ย.ปรับตัวลง 31 เซนต์ แตะที่ 106.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ตลาดจับตาการรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในช่วงค่ำวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
• นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาดัลลัส ชี้เมื่อพิจารณาจากอัตราว่างงานที่ได้ลดลงมาอยู่ที่ 7.4% ในเดือน ก.ค. เชื่อว่าขณะนี้เฟดมีแนวโน้มมากขึ้นในการดำเนินการเพื่อลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ โดยเฟดอยู่ระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มลดปริมาณการซื้อสินทรัพย์ และโดยส่วนตัวแล้วต้องการให้เริ่มลดสัดส่วนการซื้อพันธบัตรในฤดูใบไม้ร่วงนี้
• สมาคมค้าปลีกอังกฤษ(BRC) เผยยอดค้าปลีกรวมในเดือน ก.ค.ดีดตัวขึ้น 3.9% เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือน มิ.ย. ขณะที่ยอดค้าปลีกในร้านค้าที่เปิดดำเนินการตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปในเดือน ก.ค.ปรับตัวขึ้น 2.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนก่อนหน้า ยอดค้าปลีกของอังกฤษที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในเดือนที่แล้วเป็นการยืนยันถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสในช่วงที่ผ่านมา และช่วยหนุนคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจของอังกฤษจะมีการฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
• ธนาคารออสเตรเลียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.5% เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศและทั่วโลกมีแนวโน้มซบเซา ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
• สำนักงานสถติแห่งชาติของอิตาลี(Istat) เผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือน พ.ค.โดยมีปัจจัยหนุนจากการผลิตสินค้าประเภททุนและสินค้าขั้นกลาง แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน มิ.ย.หดตัวลง 2.1% โดยเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว