ภาพรวมตลอดทั้งวันนี้เงินบาทยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ การซื้อขายในช่วงบ่ายค่อนข้างเงียบ เนื่องจากวันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่นักลงทุนให้ความสำคัญมากนัก โดยวันนี้เงินบาททำ high สุดที่ 31.28 บาท/ดอลลาร์
ส่วนคืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่น่าติดตาม คือ สหรัฐฯ จะประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI)ประจำเดือนก.ค. ซึ่งตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ออกมานี้จะสามารถบ่งบอกถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในอนาคตได้
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.20 - 31.35 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.04/06 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 98.09/10 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3284/3285 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3266/3270 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,453.07 จุด ลดลง 7.56 จุด, -0.52%
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,693.51 ลบ.(SET+MAI)
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดร่วงลงในวันนี้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในเอเชียที่กังวลเกี่ยวกับการชะลอมาตรการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ รวมทั้งผลประกอบการที่มีทั้งบวกและลบ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 อ่อนตัว 0.5% เมื่อเวลา 8.21 น.ตามเวลาลอนดอน
- ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. 1.1% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายสินค้าสำหรับฤดูร้อน เช่น เสื้อผ้าและอาหาร แต่ถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 3% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่ต้นปี 54 ทั้งนี้ยอดค้าปลีกที่ปรับตัวดีขึ้นบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยธุรกิจค้าปลีกคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 6% ของเศรษฐกิจโดยรวม
- ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 6.5% ในการประชุมวันนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี หลังจากที่ธนาคารได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมา 2 ครั้งติดต่อกัน
- ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงในกรุงไคโรและกีซ่า ในประเทศอียิปต์ ล่าสุดมีรายงานยอดเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นเป็น 421 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 3,500 ราย ด้านนายโมฮัมหมัด เอลบาราเด ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งรองประธานาธิบดีแล้ว เพราะไม่ต้องการแบกรับความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้น
- รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น แสดงความลังเลที่จะลดอัตราภาษีนิติบุคคล ซึ่งถือเป็นการสกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นอาจใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อบรรเทาผลกระทบเชิงลบที่มีต่อเศรษฐกิจจากการขึ้นภาษีการขาย แต่มีแนวโน้มว่าจะพิจารณาเรื่องการลดอัตราภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุนในภาคเอกชน