กสท.จัดประชุมชี้แจงขั้นตอนประมูลทีวิดิจิทัล/เอกชนติงยังมีข้อสงสัยอีกมาก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 3, 2013 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)เปิดเผยว่า วันนี้ กสท.ได้จัดประชุมชี้แจงก่อนจำหน่ายเอกสารการประมูลทีวีดิจิทัลบริการธุรกิจ 24 ช่องในวันที่ 10-12 ก.ย.โดยมีผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมประมูลรับฟังประมาณ 40 ราย

จากการชี้แจงในที่ประชุมเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ ก็มีผู้ที่สนใจสอบถามกันมา โดยเฉพาะการเตรียมเอกสารต่างๆและกระบวนการในการซื้อซองเอกสารประมูล ซึ่งทาง กสทช.ก็ได้ให้ความชัดเจนไปแล้วว่าชื่อของผู้ที่ซื้อซองกับใบเสร็จจะต้องเป็นคนเดียวกันกับผู้ที่ยื่นซองเอกสารประมูล ส่วนบริษัทใหม่ที่ยังไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลไม่มีสิทธิเข้าซื้อซองเอกสาร

สำหรับราคาค่าโครงข่ายนั้น กสท.ยืนยันว่าจะพยายามกำหนดให้ได้ก่อนการประมูลอย่างน้อย 30 วัน

หลังจากการประมูลเสร็จสิ้นแล้วเชื่อว่าประชาชนจะได้รับชมทีวีดิจิทัลภายใน 30 วันได้ในช่องทางภาคพื้นดิน และจะขยายไปทั่วประเทศได้ประมาณ 2 ปี ส่วนระบบดาวเทียมหรือเคเบิ้ลจะเป็นไปตามกติกาที่ กสทช.กำหนด ซึ่งจะสามารถรับชมได้ครั้งแรกตั้งแต่ที่มีการออกอากาศ โดยมีเปอร์เซ็นต์ผู้ที่รับชมได้อยู่ที่ 50-60% ของครัวเรือนทั้งหมด

ด้านการขายกล่อง SET TOPBOX ทาง กสทช.จะจัดจำหน่ายให้เร็วที่สุด โดยจะเร่งยืนยันในเรื่องของมาตรฐาน SET TOPBOX เพื่อให้เกิดการแข่งขัน ซึ่งก็ได้มีการทดลองออกอากาศและปรับปรุง เพื่อให้การออกอากาศเป็นไปอย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้ กรอบเวลาก่อนวันประมูลจนถึงวันสิ้นสุดการประมูล มีดังนี้ กสทช.จะเริ่มจำหน่ายเอกสารการประมูลได้ในวันที่ 10-12 ก.ย.นี้ ที่สำนักงาน กสทช. โดยผู้ที่ซื้อเอกสารจะต้องเป็นคนเดียวกันกับผู้เซ็นสัญญา จากนั้นในวันที่ 15 ต.ค.56 จะมีการชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาต และในวันที่ 28-29 ต.ค.56 จะเป็นยื่นคำขอรับใบอนุญาต โดยจะมีการประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการประมูลภายใน 45 วันหลังสิ้นสุดเวลายื่นแบบขอรับใบอนุญาต

และภายใน 15 วัน หลังการประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการประมูล จะมึการแจ้งลำดับวันประมูลและระยะห่างวันประมูลในแต่ละหมวดหมู่ พร้อมกันนี้ภายใน 14 วันหลังการประกาศรายชื่อผู้เข้าประมูลจะมีการชี้แจงรายละเอียดการประมูลและการสาธิตและทดลองการประมูล และภายใน 30 วันหลังประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการประมูลจะสามารถเริ่มการประมูลได้ จากนั้นจะประกาศรับรองผลการประมูลภายใน 45 วัน และเมื่อผู้ชนะการประมูลปฎิบัติตามเงื่อนไขถูกต้องจะเป็นขั้นตอนของการให้ใบอนุญาต

ด้านนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (NBC) กล่าวว่า การชี้แจงในรอบแรกวันนี้ยังมีข้อสงสัยอีกมาก โดยเฉพาะหนังสือที่ได้ให้เป็นตัวอย่างไว้ เช่น เอกสารการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคาร ผู้ที่เข้าประมูลจะต้องให้ธนาคารรับรองมาแบบไหน จำนวน 15 ปีเลยหรือไม่และเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่

รวมถึงเรื่องของราคาค่าโครงข่ายซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ประมูลให้ความสนใจมาตลอดว่า กสทช.จะกำหนดเมื่อไหร่ หลักเกณฑ์เป็นแบบไหนบ้าง และการขยายโครงข่ายจะต้องครอบคลุมในจังหวัดใดบ้าง ซึ่งการที่ กสท.จะประกาศให้ทราบก่อนการประมูล 30 วันนั้น มองว่าระยะเวลาสั้นไป ควรจะทราบราคาค่าโครงข่ายก่อนวันที่ยื่นซองประมูล 28-29 ต.ค.นี้ เพื่อจะสามารถตัดสินใจได้ว่าจะยื่นประเภทใด

ส่วนเรื่องของ SET TOPBOX ควรจะเร่งให้ผู้ประกอบการนำออกจำหน่ายได้แล้ว อย่างน้อยควรให้มีการทดลองออกอากาศระบบดิจิตอลในกรุงเทพฯเขตรัศมีประมาณ 100 กิโลเมตรจากตึกใบหยก หรือทดสอบกับ 10,000 หลังคาเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถรับชมว่าดีหรือไม่ และจะทำให้ผู้ที่ประมูลมีความสนใจในการเข้าร่วมประมูลมากขึ้น

"การเตรียมความพร้อมของผู้บริโภคไม่พร้อมสักเท่าไหร่ ผู้บริโภคจำนวนมากยังขาดความเข้าใจว่าดิจิตอลทีวีเกิดมาแล้วจะดูได้ยังไง ดูได้ทั่วประเทศทันทีหรือไม่ เห็นมีแต่ข่าวเรื่องของการอนุญาตให้จำหน่ายโทรทัศน์ 54 รุ่น ซึ่งจริงๆแล้วควรจะระบุพื้นที่โครงข่ายก่อนว่ามีกี่จังหวัดเพื่อให้ประชาชนรับทราบว่าพื้นที่ไหนดูได้ดูไม่ได้"นายอดิศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ 2,000 ล้านบาทจากการเพิ่มทุนบริษัทในเครือ โดยยืนยันความพร้อมในการเข้าประมูลประเภทช่องข่าว วาไรตี้ และเด็ก ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะชนะประมูลในช่องข่าว เนื่องจากช่องข่าวของเนชั่นฯ ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 อยู่แล้ว อีกทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้ชื่อเดิมคือเนชั่นชาแนลหรือปรับมาเป็นเนชั่นทีวีที่สื่อความหมายได้กว้างขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ