ดังนั้น สมาคมฯ จึงขอเตือนนักลงทุนก่อนจะลงทุนผ่าน Gold Online ให้ตรวจสอบโบรกเกอร์รายนั้นๆ อย่างรอบคอบ เพราะหากทำการซื้อขายไปแล้ว อาจไม่ได้ทองจริง และทำให้นักลงทุนเสียหายจากการลงทุนได้ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่พบการกระทำผิดในตลาด Gold Online ในประเทศไทยก็ตาม
"ทางสมาคมค้าทองคำขอความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชน์ในการเป็นเจ้าภาพดูแลในเรื่องนี้มากขึ้น โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถตรวจสอบสถานะของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้มากขึ้น"นายจิตติ กล่าว
นายจิตติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯ กำลังรอการนัดหมายจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังจากส่งหนังสือไปยัง ธปท. เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอความชัดเจนถึงแนวทางในการดูแลตลาดทองคำ และแนวคิดที่จะจัดตั้งศูนย์กลางตลาดทองคำ(Gold Exchange)ในประเทศไทย เนื่องจากต้องการเสนอข้อมูลที่เป็นข้อดีและข้อเสียให้ ธปท.พิจารณาก่อนสรุปและมีผลบังคับใช้ เพื่อที่จะไม่เป็นสกัดกั้นธุรกิจค้าทองคำในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันไทยมีการนำเข้าทองคำติดอันดับ 10 ของโลก หรือ เฉลี่ยแล้วกว่า 200 ตัน/ปี
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในช่วงนี้ หลังจากมีสัญญาณว่าสภาคองเกรสของสหรัฐฯจะขยายเพดานหนี้ชั่วคราว ส่งผลให้ราคาทองคำมีทิศทางขาลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,245 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หากหลุดแนวรับดังกล่าว ราคาทองคำอาจจะมีการปรับตัวลดลงมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม หากผลการพิจารณาขยายเพดานหนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ และมีการผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้น ก็จะทำให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นทันที คาดว่าจะสูงขึ้นไปใกล้เคียงระดับ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ แต่ยังเชื่อว่าโอกาสที่สหรัฐฯไม่ขยายเพดานหนี้คงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก