อีสานโพลเผยดัชนีเชื่อมั่น SMEs ไตรมาส 3 ทรุด เหตุต้นทุนเพิ่ม-ยอดขายลด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 18, 2013 12:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อีสานโพล(E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน(ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง ดัชนีความเชื่อมั่นภาคการผลิตของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในไตรมาสที่ 3/2556(MSSI) พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2/2556 และอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าฐาน(ดัชนีค่าฐานเท่ากับ 50 หมายความว่าความเชื่อมั่นคงเดิม) โดยปรับจากที่ระดับ 45.3 ลดลงมาที่ระดับ 41.6 เป็นผลมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุนและยอดขายที่ปรับตัวลดลงอย่างมากเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า จึงมีผลทำให้ผลรวมของค่าดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันปรับตัวลดลง

หากพิจารณาเป็นรายสาขา พบว่า มี 4 สาขาที่ลดลง คือ โดยสาขาเคมีภัณฑ์เป็นสาขาที่มีการปรับตัวลดลงมากที่สุด รองลงมาคือ สาขาอาหารและเครื่องดื่ม(จำนวนผู้ประกอบการมากที่สุดในสาขานี้) สาขาผลิตภัณฑ์โลหะ และสาขาเครื่องเรือน ทั้งนี้ใน 4 สาขาที่ลดลง เป็นกลุ่มใหญ่ของธุรกิจ SMEs ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้ภาพรวมของค่าดัชนีในปัจจุบันลดลง

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคการผลิตไตรมาส 4/2556 ก็คาดการณ์ว่าจะลดลงจาก 50.0 เหลือ 47.9 นั่นคือไตรมาส 4 ปีนี้ SMEs อีสานยังไม่เชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

ในส่วนของค่าดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมในปัจจุบัน พบว่า ค่าดัชนีปัจจุบันปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2/2556 โดยปรับจากที่ระดับ 48.1 มาอยู่ที่ระดับ 47.3 ในส่วนของค่าดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ฯ พบว่า ค่าดัชนีจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากที่ระดับ 53.0 ในไตรมาส 2/2556 มาอยู่ที่ระดับ 55.5 ในไตรมาส 3/2556 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า SMEs อีสานคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจประเทศไตรมาส 4/2556 น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากเดิม

ผลการคำนวณเฉลี่ยทุกสาขา พบว่าปัจจัยที่มีผลกระทบต่อธุรกิจทั้งปัจจุบันและอนาคตที่มีนัยยะในระดับมากคือ ราคาน้ำมัน/ค่าขนส่ง, ต้นทุนสินค้า/ค่าแรง และการแข่งขันในตลาด ส่วนปัจจัยระดับปานกลาง ประกอบด้วย ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ อำนาจซื้อของประชาชน การหดตัวของความต้องการสินค้า คุณภาพบริการของสาธารณูปโภค สภาวะเศรษฐกิจโลก สถานการณ์ทางการเมือง และมาตรการต่างๆจากภาครัฐบาล ขณะที่ปัจจัยที่มีผลเพียงเล็กน้อยคือ สภาวะเศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และอัตราแลกเปลี่ยน

จากค่าคะแนนดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเน้นตลาดภายในประเทศเป็นหลัก และมีส่งออกตลาดต่างประเทศบ้างแต่มีปริมาณที่ไม่มากนัก

อนึ่ง ผลสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของผู้ประกอบการ SMEs สาขาการผลิตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม-6 กันยายน 2556 จากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 680 ราย จากจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา และอุบลราชธานี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ