(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 31.58/60 แนวโน้มแข็งค่า หลังเฟดคงมาตรการ QE

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 15, 2013 11:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.58/60 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.57/59 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะปรับตัวแข็งค่ามาอยู่ที่ระดับ 31.55/57 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่า เนื่องจากเฟดคงมาตรการ QE ต่อไป
"เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า แต่คงไม่ไปไหนไกล เพราะรับข่าวเรื่องการคงมาตรการ QE ไปก่อนหน้านี้แล้ว" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.55-31.65 บาท/ดอลลาร์

"คงต้องดูตลาดยุโรปช่วงบ่ายว่ามีท่าทีอย่างไร ส่วนการเมืองในประเทศน่าจะคลายความกังวลลงบ้าง" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 31.5992 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.35267% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.43501%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.24 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 99.88/90 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3455 ดอลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3444/3446 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.4930 บาท/ดอลลาร์
  • จับตาท่าทีแกนนำม็อบค้านนิรโทษกรรมที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศยกระดับการชุมนุมในเย็นวันนี้ เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลในการต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เผยกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นัดชุมนุมใหญ่วันศุกร์ที่ 15 พ.ย.ว่า เท่าที่หารือกับสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้านานาชาติ รวมถึงเอกอัครราชทูตต่างประเทศ ไม่ได้กังวลกับการชุมนุมที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งภาคธุรกิจท่องเที่ยวยังยืนยันว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวยังเป็นปกติ ทั้งนี้หากการชุมนุมเป็นการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรต่อระบบเศรษฐกิจหรือการท่องเที่ยว
  • นายศิริ การเจริญดี คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยขณะนี้ปัจจัยการเมืองที่ยังคงชุมนุมอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นเศรษฐกิจมากขึ้น และอาจจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ดังนั้นการประชุมบอร์ด กนง.ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ กนง.จะพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งปัจจัยระยะสั้นและระยะยาวที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทย เพื่อพิจารณาการดำเนินนโยบายการเงินที่จะสร้างความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นต่อการดูแลภาวะเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะเวลาที่ประเทศเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
  • ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ประเมินเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 อาจแย่กว่าที่คิด ซึ่งจะติดลบ 3 ไตรมาสต่อกัน เหตุหนี้ครัวเรือนกดดันหนักภาครัฐไม่มีมาตรการกระตุ้นการบริโภค
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 22 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,950 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,294.33 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ที่ระดับ 2.38 ดอลลาร์สหรัฐ
  • มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารรายใหญ่ 4 แห่งของสหรัฐ หลังจากพิจารณาเห็นว่ารัฐบาลสหรัฐอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือธนาคารเหล่านี้ในการชำระหนี้คืนแก่กลุ่มเจ้าหนี้ ในกรณีเกิดวิกฤต โดยมูดีส์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร 4 แห่งลง 1 ขั้น ซึ่งได้แก่ โกลด์แมน แซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป ก่อนหน้านี้มูดีส์ได้ดำเนินการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร 8 แห่ง โดยเริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีนี้ ขณะเดียวกันมูดีส์ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป, ซิตี้กรุ๊ป อิงค์, สเตท สตรีท คอร์ป และเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เผยยอดขาดดุลการค้าเดือน ก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.18 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 3.87 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือน ส.ค. เนื่องจากยอดการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ยอดการส่งออกหดตัวลง โดยการส่งออกเดือน ก.ย.ปรับตัวลดลง 400 ล้านดอลลาร์จากเดือน ส.ค. มาอยู่ที่ระดับ 1.889 แสนล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่ายอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าด้านอุตสาหกรรม และวัตถุดิบในตลาดต่างประเทศ ปรับตัวลดลง ขณะที่การนำเข้าเดือน ก.ย.พุ่งขึ้น 2.7 พันล้านดอลลาร์จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 2.307 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากสหรัฐสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคและรถยนต์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ปรับตัวขึ้น 47 เซนต์ แตะที่ 94.23 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่ประธานเฟด แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐว่า การผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันควรดำเนินต่อไปในขณะนี้ เพื่อสร้างความมันใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) เผยสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 พ.ย. พุ่งขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล แตะที่ 388.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล
  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนลดการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความปลอดภัยหลังจากที่ตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าพุ่งแรง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 331 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดภาคเช้าที่ 0.605% ลดลง 0.010% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 0.03 จุด แตะที่ 144.99 ที่ตลาดหุ้นโตเกียว

แท็ก เงินบาท   เฟด   QE  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ