ทิศทางเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนจับตา ยังคงเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศ ส่วนปัจจัยต่างประเทศนั้น นักลงทุนติดตามการประชุมของธนาคารกลางประเทศต่างๆ โดยเฉพาะธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่นักลงทุนรอดูว่า ECB จะประกาศใช้นโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.10-32.30 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.1775 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 1.96043% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.07101%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.32 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 102.73 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3589 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 1.3568 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 32.2020 บาท/ดอลลาร์
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ระบุปี 56 ส่งออกโต 0.5% วอนอย่านำเศรษฐกิจมาเป็นตัวประกัน ขอทุกฝ่ายเร่งเจรจาหาทางออกปัญหาการเมือง ชี้ ต้องแยกจากเรื่องเศรษฐกิจ มองหากยุติในสัปดาห์นี้ ไม่กระทบปีหน้า คาดเศรษฐกิจปี 57 มีแนวโน้มดีขึ้น อุปสงค์ภาคครัวเรือนมะกันช่วยหนุนส่งออกปีหน้าโต 5%
- นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงการชุมนุมทาง การเมืองหากยืดเยื้อ รุนแรงจะมีผลในระยะยาว และจะทำให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก ต่างประเทศลดเครดิตเรตติ้งประเทศไทยลงได้ จากปัจจุบันอยู่ที่ บีบีบีบวก เพราะปัจจุบันมีหลาย ประเทศที่เริ่มมีคำเตือนมายังประเทศไทยแล้ว ซึ่งหากถูกลดเรตติ้งจะกระทบต่อต้นทุนการกู้เงินจะมีสัดส่วนที่สูงขึ้น ทั้งภาครัฐและเอกชน สำหรับผล กระทบระยะสั้นจะกระทบต่อด้านการท่องเที่ยว ซึ่งทำให้รายได้เข้าประเทศลดลง และระยะปานกลาง จะส่งผลทำให้ภาคเอกชนชะลอการตัดสินใจในการเดินหน้าลงทุนของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) เนื่องจากนักงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย. และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้หลังเงินเยนแข็งค่า โดยดัชนี MSCI Asia Pacific Index ลดลง 0.4% ที่ระดับ 141.22 จุด เมื่อเวลา 09.28 น.ตามเวลาโตเกียว ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.จาก ADP ในคืนนี้ตามเวลาไทย เพื่อประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) เมื่อใด
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือน และคาดว่ากลุ่มโอเปคจะมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบไว้เท่าเดิมในการประชุมวันพุธนี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 2.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักลงทุนยังจับตาดูกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งประกอบด้วย แอลจีเรีย แองโกลา เอกวาดอร์ อิรัก คูเวต ลิเบีย ไนจีเรีย กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวเนซูเอลา จะประชุมกันในวันที่ 4 ธ.ค. ที่กรุงเวียนนา ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าโอเปคมีแนวโน้มคงเพดานการผลิตน้ำมันที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรล/วัน
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงทรงตัวที่ระดับ 11,380 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,232.59 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
รายงานผลสำรวจโดยมาร์กิต ร่วมกับสถาบันจัดซื้อและซัพพลายแห่งประเทศอังกฤษ (CIPS) แสดงให้เห็นว่า ภาคการก่อสร้างของอังกฤษฟื้นตัวเร็วขึ้นในเดือนพ.ย. โดยผลผลิตและการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวต่างปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี ทั้งนี้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการก่อสร้าง พุ่งขึ้นสู่ระดับ 62.6 ในเดือนพ.ย. จาก 59.4 ในเดือนก่อนหน้า