เงินบาทเปิด 32.33/35 อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังเฟดทยอยลด QE เริ่มต้นปี 57

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่า ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่าลงเช่นกันเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเมื่อวานนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ด้วยการปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น โดย FED จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนม.ค.57

"บาทอ่อนค่า เพราะหลักๆ มาจากที่ลด QE ลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ที่จะเริ่มตั้งแต่ปีหน้า จึงส่งผลให้สกุลเงินในเอเชียอ่อนค่าไป" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.20-32.50 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.01/03 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 102.88/90 เยน/ดอลลาร์
• ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3673/3675 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3747/3750 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ 31.9755 บาท/ดอลลาร์
• คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ด้วยการปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น โดย FED จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนม.ค.58
• วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 64 ต่อ 36 ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณระยะเวลา 2 ปี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตัวแทนเจรจาของพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้บรรลุข้อตกลงงบประมาณดังกล่าวและเสนอต่อให้กับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐพิจารณาอนุมัติไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการในอีก 2 ปีข้างหน้า
• สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมครั้งล่าสุด โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้า
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.3% แตะที่ระดับ 138.70 จุด เมื่อเวลา 09.19 น.ตามเวลาโตเกียว หลังเฟดมีมติปรับลด QE ลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ตั้งแต่ม.ค.58 เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น
• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ย.ขยายตัว 22.7% จากเดือนต.ค. สู่ระดับ 1,091,000 ยูนิต ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และสูงที่สุดในรอบเกือบ 6 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากการสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวและบ้านสำหรับหลายครอบครัวที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 100 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,380 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,232.59 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 10.83 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ร่วงลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ ปิดที่ 97.8 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
• ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้อาจส่งผลให้การระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ หรือการออกกองทุนประเภทต่างๆ ของบริษัทขนาดกลางที่มีขนาดกองทุนต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทลงไป ทำได้ยากขึ้น เพราะอุปสงค์ในตลาดพันธบัตรกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่หายไป จะดันให้ต้นทุนการกู้ยืมของลูกค้ากลุ่มขนาดกลางเหล่านี้จะเพิ่มสูงขึ้น
• สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในปี 2557 คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 15% จำนวนนักท่องเที่ยว 28 ล้านคน สร้างรายได้ 1.3-1.4 ล้านล้านบาท โดยเหตุการณ์ชุมนุมจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวมากนัก เนื่องจากมีพื้นที่การชุมนุมที่ชัดเจน และไม่มีความรุนแรง ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานการขนส่งสามารถเข้าถึงจังหวัดท่องเที่ยวรองได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

---