นางนันทวัลย์ ศกุลตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในปี 57 ตั้งเป้าหมายมูลค่าส่งออกขยายตัวไว้ที่ 5% จากปี 56 มูลค่า 243,105 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าหลักจะดีขึ้น ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และ ญี่ปุ่น ส่งผลให้ความต้องการซื้อมากขึ้น แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงคือ เศรษฐกิจโลกที่ยังอาจฟื้นตัวไม่มากนัก, ราคาสินค้าเกษตรทั่วโลกอาจลดลง, การขาดแคลนวัตถุดิบ โดยเฉพาะกุ้ง, อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน, ความเสี่ยงในการลดมาตรการ QE ของสหรัฐฯ รวมถึงปัญหาการเมืองของไทย ที่หากยังมีปัญหาต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 57 อาจส่งผลกระทบต่องานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นในไทย และอาจทำให้ลูกค้าจากทั่วโลกไม่มั่นใจที่จะเดินทางเข้าร่วมงาน และอาจกระทบต่อยอดคำสั่งซื้อได้ แต่เชื่อว่า ปัญหาการเมืองไม่น่าจะยืดเยื้อยาวถึงกลางปีหน้า
ขณะที่ในปี 56 มูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ขึ้นอยู่กับมูลค่าในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ (พ.ย.-ธ.ค.) โดยหาก 2 เดือนสุดท้าย มีมูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะส่งผลให้ทั้งปีมีอัตราการขยายตัวที่ 1% จากปี 55 คิดเป็นมูลค่ารวม 231,533.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
แต่หาก 2 เดือนที่เหลือมีมูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 19,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งปีจะขยายตัวได้เพียง 0.5% มูลค่า 230,533.3 ล้านเหรียญสหรัฐ และหากได้เฉลี่ยเดือนละ 18,900 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้ทั้งปีไม่ขยายตัวจากปีก่อน หรือ 0% มูลค่า 229,333.3 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่ถ้าได้เฉลี่ยเดือนละ 18,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งปีจะติดลบ 0.02%
"กระทรวงพาณิชย์กำหนดเป้าหมายส่งออกปีนี้ขยายตัว 1% มูลค่า 231,579 ล้านเหรียญฯ และเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย ในช่วง 2 เดือนที่เหลือจะต้องมีมูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 19,998 ล้านเหรียญฯ ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีมูลค่าตามเป้าหมายหรือไม่ แต่จากค่าเฉลี่ยของ 2 เดือนที่เหลือปี 55 ได้เพียงเดือนละ 18,828 ล้านเหรียญฯเท่านั้น" นางนันทวัลย์ กล่าว