นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.79/81 ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 32.73/74 บาท/ดอลลาร์ แล้วก็ขึ้นไปทำ High ที่ระดับ 32.84/85 บาท/ดอลลาร์ แต่ตอนนี้ลงมาอยู่ที่ 32.76/77 บาท/ดอลลาร์
"เมื่อคืนมีตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯออกมาค่อนข้างดี และ ปัจจัยหลักคือประธานเฟดสาขาดัลลัสและฟิลาเดเฟียออกมาส่งสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการ QE ในเดือนนี้ เหมือนเป็นการบอกทิศทางที่ชัดเจน ราคาทองปรับตัวลดลงในเช้านี้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.70-32.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.31 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ 103.56/60 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3644 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ระดับ 1.3671/3674 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 32.8800 บาท/ดอลลาร์
- มาร์ค โมเบียส ยันเดินหน้าลงทุนหุ้นไทยปีนี้ต่อ ไม่หวั่นกระแสผู้ชุมนุมปิดกรุงเทพฯ เนื่องจากมั่นใจพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย ยังคงเป็นไปในเชิงบวก
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) แจ้งเปลี่ยนแปลงสถานที่ให้บริการผู้ลงทุนและผู้ติดต่อรับส่งเอกสาร เพื่อความสะดวกในการเดินทางของผู้มาติดต่อกับตลาดหลักทรัพย์ฯ จากเดิม อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ.รัชดาภิเษก เปลี่ยนเป็น ศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดาภิเษก ชั้น 2 บริเวณห้องสมุดมารวย ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2557 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง
- นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตาม Sentiment บวกจากตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก หลังตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยุโรป และตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯออกมาดี ส่วนการเมืองรอดูความคืบหน้าการหารือของรัฐบาลกับทุกฝ่ายเรื่องเลื่อนการเลือกตั้ง แต่มองว่าไม่ได้ทำให้ปัญหาคลี่คลาย และยังต้องรอดูว่าผู้ชุมนุมจะกดดันรัฐบาลมากขึ้นหรือไม่ พร้อมให้แนวรับ 1,280-1,285 แนวต้าน 1,305 จุด
- "ที่ปรึกษาไอพีโอ" ชะลอแผนดันหุ้นเข้าตลาดหลังการเมืองยืดเยื้อเกินคาด แจงลูกค้าหากยังไม่จำเป็นใช้เงินระดมทุน ควรเลื่อนแผนไปก่อน รับ่ผลตอบแทนไอพีโอเริ่มไม่ดึงดูด หลังนักลงทุนมีตัวเลือกเพิ่ม เนื่องจากราคาหุ้นในกระดานต่ำกว่าพื้นฐาน ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส รับการเมืองกดดันแผนนำหุ้นเข้าตลาด แต่คาดดันเข้าได้ภายในไตรมาส 1 หากการเมืองคลี่คลาย
- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังคงต้องจับตา 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การส่งออกที่ยังพอมีปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินบาทการลงทุนของภาครัฐ แม้จะเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ แต่ก็ได้อนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณปีงบ ประมาณ 57 ไว้เรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าทุกส่วนราชการยังสามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติรวมถึงการลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชน ที่เริ่มมีความเป็นห่วงว่าอาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจที่จะจับจ่ายและปัจจัยเรื่องรายได้ของภาคแรงงานที่อาจจะปรับตัวลดลงซึ่งสอดคล้องกับการลงทุนของภาคเอกชนที่ชะลอตัวลงตามไปด้วย
- ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นโตเกียว เนื่องจากเงินเยนอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ม.ค.) ขานรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวแข็งแกร่งของยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกที่สดใสของสหรัฐ
- นายชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เฟดควรยุติโครงการซื้อพันธบัตรก่อนสิ้นปี 2557 โดยระบุว่าข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่อ่อนแรงในเดือนธ.ค.จะไม่ส่งผลให้เฟดยุติการดำเนินการตามแผนในการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE
- นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เน้นย้ำท่าทีในการสนับสนุนให้เฟดชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE โดยระบุว่าเขาจะโหวตให้เฟดปรับลดนโยบายดังกล่าวต่อไป หากแนวโน้มเศรษฐกิจไม่เกิดการพลิกผันอย่างรุนแรง