เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นมาในช่วงบ่ายของวันนี้ เนื่องจากมีเงินทุนไหลเข้าในตลาดหุ้นไทย ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังต้องจับตาอยู่ต่อไป เพียงแต่ภาพการชุมนุมใหญ่ชัตดาวน์กรุงเทพฯ ของกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ยังสงบเรียบร้อย ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้นจึงไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้เงินบาทอ่อนค่าในช่วงนี้
"เงินบาทรีบาวน์แข็งค่าขึ้นมาในช่วงบ่ายวันนี้ น่าจะมาจากเงินทุนไหลเข้า เพราะปิดตลาดหุ้นไทยวันนี้เพิ่มขึ้น 24.45 จุด ขณะที่การชุมนุมก็สงบเรียบร้อยดี ถือว่าค่อนข้างเซอร์ไพร์สตลาด" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ ซึ่งเงินบาทอาจจะปรับแข็งค่าบ้างในระยะสั้น แต่แนวโน้มในระยะยาวบาทยังมีโอกาสอ่อนค่า โดยมองว่าวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.70-32.90 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.60 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 104.7577 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3620 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3618/3620 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,301.48 เพิ่มขึ้น 24.45 จุด (+1.91%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 37,765 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,836.30 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เตรียมนำผลกระทบจากการชุมนุมปิดกรุงเทพฯ ในสัปดาห์นี้ นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในการประชุมวันที่ 22 ม.ค.57 รวมทั้งผลกระทบที่มีต่อการเบิกจ่ายของภาครัฐในช่วงรัฐบาลรักษาการณ์ โดย ธปท.จะประเมินสถานการณ์และติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยเดือนธ.ค.56 อยู่ที่ระดับ 88.3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 90.3 ในเดือนพ.ย. ทั้งนี้ดัชนีที่ลดลงเป็นเพราะผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง และทำให้ค่าดัชนีฯ ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 25 เดือน นับตั้งแต่เดือน ธ.ค.54
- คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้แจ้งข้อกล่าวหากับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่งทั้งข้าราชการและภาคเอกชน กรณีทุจริตขายข้าวในสต็อกของรัฐบาลแบบรัฐต่อรัฐ(G to G)กับจีน
- มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ระบุว่า เหตุการณ์ประท้วงทางการเมืองที่ยืดเยื้อ จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐไทยในปี 2557 ที่มีความเปราะบางอยู่แล้ว นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นยังจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากฐานะเงินตราต่างประเทศของไทยที่ลดลงมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนต.ค.ปีที่แล้ว
- โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ของไทยในปี 2557 ลงสู่ระดับ 3.6% จากระดับ 4.2% เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น พร้อมคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในไตรมาสนี้ โดยเชื่อว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงเล็กน้อยในระยะใกล้
- ตลาดหุ้นยุโรปเปลี่ยนแปลงไม่มากนักในช่วงเปิดตลาดวันนี้ โดยดัชนี Stoxx 600 ขยับลงไม่ถึง 0.1% แตะ 334.45 เมื่อเวลา 08.10 น.ตามเวลาลอนดอนหลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีวานนี้ ขณะที่นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจ รวมถึงพิจารณาผลประกอบการซึ่งหลายบริษัททยอยเปิดเผยในช่วงนี้
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะยังคงฟื้นตัวปานกลาง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ก่อนการปรับเพิ่มภาษีการขายในเดือนเม.ย.57 และการลดลงของอุปสงค์หลังจากนั้น
ขณะเดียวกันบีโอเจยังได้ปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจ 5 เขต จากทั้งหมด 9 เขต เมื่อเทียบกับการประเมินช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายที่แข็งแกร่งของผู้บริโภค ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นภาษีการขายในเดือนเม.ย.นี้