เงินบาทปิด 32.85/89 แข็งค่าหลังกนง.คงดอกเบี้ย คาดพรุ่งนี้ 32.80-33.00

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 22, 2014 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.85/89 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.90/92 ดอลลาร์

ช่วงเช้าที่ผ่านมาเงินบาทยังค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากตลาดยังรอฟังผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ตามที่ตลาดส่วนใหญ่คาดไว้หรือไม่ แต่หลังจากมีมติ กนง.ออกมาว่าคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม จึงทำให้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าทันทีช่วงเวลาสั้น และจากนั้นก็กลับมาอยู่ในระดับเดิม

ทั้งนี้ นักลงทุนยังติดตามสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศอย่างใกล้ชิด ภายหลังจากรัฐบาลประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งปัจจัยต่างประเทศ คือ การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ในสัปดาห์หน้า

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.80-33.00 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.38/40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.66 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3543/47 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3536 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,290.49 จุด ลดลง 2.61 จุด, -0.20%
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในการประชุมนัดแรกปี 57 วันที่ 22 ม.ค.มีมติ 4 ต่อ 3 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% หลังประเมินว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยในระยะยาวยังแกร่ง แต่ระยะสั้นถูกกดดันจากปัญหาการเมืองที่กระทบต่อการลงทุนภาครัฐและเอกชนที่จะต้องเลื่อนออกไป จึงคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโตแค่ใกล้เคียง 3% จากเดิมคาด 4% ส่วนปี 56 เติบโตต่ำกว่า 3%
  • สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) มองว่าการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% ในวันนี้นั้น จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องจากปลายปีก่อน และจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่กดดันแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ ประกอบกับที่ทางสภาพัฒน์ฯ จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของไตรมาส 4 ปีที่แล้วในเดือนก.พ. 2557 ซึ่งคาดว่าจะสร้างความผิดหวังกว่าที่คาด น่าจะมีผลให้ทางกนง. ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมหน้าในวันที่ 12 มี.ค. 57
  • นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นเวลา 60 วัน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น ขณะนี้คงยังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากเพิ่งเริ่มบังคับใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าวเป็นวันแรก แต่เชื่อว่าในระยะสั้นจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาต่างชาติ รวมทั้งกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทยให้ลดลง ส่วนในระยะยาวคาดว่าจะมีผลกระทบต่อการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเข้ามาอย่างแน่นอน
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมากต่อไป และคงแนวโน้มราคาผู้บริโภคสำหรับปีงบประมาณ 2558 ไว้ที่ 1.9% เช่นเดิม โดยใกล้เคียงกับเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืด
  • ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% แตะ 336.72 จุด เมื่อเวลา 08.05 น.ในลอนดอน ก่อนธนาคารกลางอังกฤษเผยแพร่รายงานการประชุม ขณะที่วานนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงเศรษฐกิจยูโรโซน
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเล็กน้อย มาเป็นขยายตัว 3.7% ในปี 2557 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.1% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนต.ค. เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวโดยรวมในประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว
  • ผลการสำรวจของไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) พบว่าประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(CEO) ธุรกิจทั่วโลกต่างก็มีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก โดย PwC ระบุว่าผลการสำรวจความเห็นจาก CEO จำนวน 1,344 รายใน 68 ประเทศพบว่า 44% ในจำนวนดังกล่าวมีมุมมองที่เป็นบวกว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากผลการสำรวจเมื่อปีก่อน
  • สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ(CBI) เปิดเผยข้อมูลทิศทางอุตสาหกรรม โดยผลสำรวจรายไตรมาสของ CBI จากการสำรวจสมาชิกของสมาพันธ์ฯ ซึ่งเป็นองค์กรผู้แทนธุรกิจหลักของอังกฤษระบุว่า 21% ของบริษัทที่ได้รับการสำรวจ มีมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ของตนเองมากกว่าเมื่อ 3 เดือนก่อน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนที่ทำไว้ในเดือนต.ค. ได้แรงหนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเศรษฐกิจอังกฤษ

ขณะที่บริษัท 13% รายงานว่าได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น โดย 11% เป็นคำสั่งซื้อจากในประเทศ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554

  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 88 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,530 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,247.23 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 9.52 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ