นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.98/33.00 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.87/88 บาท/ดอลลาร์
แนวโน้มคาดว่าวันนี้เงินบาทจะไปในทิศทางอ่อนค่า เนื่องจากยังคงมีต่างชาติเข้าซื้อดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจัยการเมืองก็ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะมีเหตุอะไรรุนแรงในช่วงวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.หรือไม่ ส่วนผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ก็ออกมาตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะลด QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน
"มองว่าวันนี้ไปในทางอ่อนค่า เพราะยังมีต่างชาติไล่ซื้อดอลลาร์ ส่วนปัจจัยพื้นฐานตอนนี้ คงมองเรื่องการเมืองต่อ เพราะตอนนี้ก็จะมีการเดินรณรงค์ของ กปปส.ที่คัดค้านการออกไปเลือกตั้งอีกในช่วงนี้ก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งหากวันที่ 2 ก.พ.มีเหตุอะไรรุนแรง บาทก็คงจะยิ่งอ่อนค่าต่อ" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางอ่อนค่า คาดกรอบบนไม่เกิน 33.10 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.27/29 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 103.22 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3652/3654 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3655 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.8920 บาท/ดอลลาร์
- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้เข้าร่วมประชุม ASEAN-Japan Commemorative Summit ในโอกาสญี่ปุ่นและอาเซียนมีความสัมพันธ์มากว่า 25 ปี โดยญี่ปุ่นแจ้งว่าช่วงปีนี้-ปี 2559 จะสนับสนุนเงินทุนทั้งรูปแบบเงินกู้และการให้ความช่วยเหลือด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงการขนส่ง 6 ประเทศอาเซียน รวมวงเงิน 6.6 แสนล้านเยน
- ธปท.จับตาค่าเงินบาทไทย หลังเฟดจ่อลดปริมาณคิวอี ยอมรับค่าเงินไทยอ่อนค่าเร็วเกินไป แต่เชื่อไม่ซ้ำรอยอาร์เจน ตินา พาณิชย์ยังมั่นใจส่งออกโต 5% ตามเป้า จี้ทูตฯ เร่งทำความเข้าใจลูกค้า สร้างความเชื่อมั่นซื้อสินค้าต่อ
- ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบเงินเยนเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรลงอีก 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มในเดือนก.พ.
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จากระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะเริ่มดำเนินการดังกล่าวในเดือนก.พ.ปีนี้
- แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของเฟดระบุว่า การตัดสินใจปรับลดมาตรการ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์นั้น มีขึ้นหลังจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนข้อมูลบ่งชี้ด้านตลาดแรงงานนั้นแม้ว่าจะออกมาผันผวน แต่ภาวะโดยรวมยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวของเฟด แต่การคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวยังคงมีเสถียรภาพ
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 1.2% แตะที่ 135.03 จุด เมื่อเวลา 9.30 น.ตามเวลาโตเกียว หลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากภาวะไร้เสถียรภาพทางการเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 11.4 ดอลลาร์ หรือ 0.91% ปิดที่ 1,262.2 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาด NYMEX ลดลง 5 เซนต์ ปิดที่ 97.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 107.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
- วันนี้ตลาดหุ้นหลายประเทศในเอเชียปิดทำการ เนื่องจากเป็นเทศกาลตรุษจีน เช่นตลาดหุ้นไต้หวัน ตลาดหุ้นเวียดนาม เป็นต้น