นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.00/02 บาท/ดอลลาร์ จากวานนี้ที่ปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.98/99 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดเงินบาทปรับลงมาอยู่ที่ 32.99/33.00 บาท/ดอลลาร์
"เมื่อเช้าเงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าขึ้นไปอยู่ที่ 33.00/02 จากประเด็นต่อเนื่องเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดขนาด QE ด้วยการลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตร ลงอีก 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และราคาทองคำก็ลงมาด้วย"นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า วันนี้ตลาดน่าจะยังคงเล่นประเด็นเดิม ดอลลาร์น่าจะยังมีทิศทางแข็งค่าอยู่ อาจจะต้องจับตามข่าวต่างๆเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าเงินบาทจะยังไม่แข็งค่าในช่วงวันนี้
ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ระหว่าง 32.95-33.05 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 33.0194 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (30 ม.ค.) อยู่ที่ 2.15401% และ THAI BAHT FIX 6M (30 ม.ค.) อยู่ที่ 2.09394%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.75 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 102.29/31 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3555 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 1.3586/3588 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.9880 บาท/ดอลลาร์
- กระทรวงพาณิชย์ จับตาสินค้านำเข้า หลังบาทอ่อนทะลุ 32 บาท/เหรียญสหรัฐ เหตุ กระทบต้นทุนสินค้าหลายรายการ ทั้งเหล็ก อะลูมิเนียม กระป๋อง สายไฟ ปุ๋ย นม คาดราคายังไม่ขยับ เหตุแข่งขันกันสูง และสต๊อกเก่ายังมีอยู่
- นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า สถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อในปัจจุบันเป็นสิ่งที่น่ากังวลมากที่สุด โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นจะปรากฏชัดในช่วงครึ่งหลังของปี 57 ต่อเนื่องถึงปีหน้า เพราะจะทำให้นักลงทุนชะลอหรือตัดสินใจไม่ลงทุนใหม่ รวมทั้งย้ายการลงทุนไปประเทศอื่นหรือย้ายฐานการผลิตเร็วขึ้นและมีผลกระทบกับแรงงานมากพอสมควร โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนประกอบของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็ก ทรอนิกส์ซึ่งรองรับแรงงานมากกว่า 300,000-400,000 คน
- ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) อันเนื่องมาจากข้อมูลกการขยายตัวของสหรัฐที่ออกมาในเชิงบวก ในช่วง 1 วันหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดขนาดมาตรการกระตุ้นทางการเงิน
- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการในวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐที่ยังคงขยายตัวได้ดีในไตรมาส 4/2556
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐที่ยังคงขยายตัวได้ดีในไตรมาส 4/2556 และผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทบางแห่ง รวมถึงเฟซบุ๊ก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบอันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมล่าสุด
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2556 ขยายตัว 3.2% เพราะได้แรงหนุนจากยอดการส่งออกและการอุปโภคบริโภคที่ขยายตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี อย่างไรก็ตาม จีดีพีไตรมาส 4 ขยายตัวในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ซึ่งขยายตัว 4.1%