นายนายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.ภัทร คาดว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในปี 57 จะอยู่ที่ 2.8% หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในครึ่งแรกของปี โดยประเมินว่า GDP ในครึ่งปีแรกจะขยายตัว 0.6% ส่วนในครึ่งปีหลังจะขยายตัว 5% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยว การบริโภค และการส่งออกที่คาดว่าทั้งปีจะเติบโตราว 4%
อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรม ความไม่แน่นอนในการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นายศุภวุฒิ กล่าวว่า ปัญหาโครงการจำนำข้าวกระทบต่อชาวนาโดยตรง แต่เชื่อไม่กระทบ GDP เนื่องจากภาคการเกษตรมีผลกระทบต่อ GDP เพียง 10% เท่านั้น แต่การปิดกรุงเทพฯ มีผลกระทบมากกว่า ซึ่งขณะนี้สร้างผลกระทบไปแล้วกว่าหมื่นล้านบาท
พร้อมระบุว่า ทางออกของปัญหาข้าวมีให้เลือกอยู่ 2 ทางออก คือ หากู้เงินมา หรือ ขายข้าวเพื่อจะนำเงินไปจ่ายให้ชาวนา แต่ข้อเรียกร้องที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้รัฐบาลลาออกและให้ตั้งรัฐบาลคนกลางมาแก้ปัญหานั้น เชื่อว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญไม่ได้รองรับกับสิ่งนี้ จึงมองการแก้ปัญหาเรื่องข้าวในสองแนวทางดังกล่าวมากกว่า