นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.53/54 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 32.55/57 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทไปทำโลว์ที่ระดับ 32.52 บาท/ดอลลาร์ และทำไฮที่ระดับ 32.58 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค ตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามา
"ขยับแข็งค่าเล็กน้อย ตลาดค่อนข้างเงียบ รอปัจจัยใหม่ๆ" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้าจะอยู่ในกรอบระหว่าง 32.35-32.65 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.45 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 102.40 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3715 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3717 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,304.21 จุด เพิ่มขึ้น 0.23 จุด, +0.02% มูลค่าการซื้อขาย 21,080.22 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 436.85 ล้านบาท(SET+MAI)
- นายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เปิดเผยว่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s Investors Service (Moody’s) ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลของประเทศไทยที่ระดับ Baa1 โดยมีแนวโน้มความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ในขณะเดียวกัน ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นของไทยที่ระดับ Prime-2 และอันดับความน่าเชื่อถือสำหรับการออกตราสารหนี้แบบ MTN หรือแบบ Shelf Registration ที่ (P)Baa
การยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของ Moody’s ของประเทศไทยมีพื้นฐานจากมุมมองว่า พื้นฐานความน่าเชื่อถือมีความโดดเด่นกว่าความไม่สงบทางการเมืองในประเทศที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีการปฏิวัติเมื่อปี 2549 แนวโน้มความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า การกลับมาของการต่อสู้ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ จะไม่บั่นทอนความแข็งแกร่งของความน่าเชื่อถือของไทยลงอย่างมีนัยสำคัญ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย วันที่ 14 ก.พ.57 อยู่ที่ 168.4 พันดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 7 ก.พ.57 ที่ 167.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 14 ก.พ.57 อยู่ที่ 22.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับวันที่ 7 ก.พ.57 อยู่ที่ 22.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 14 ก.พ.57 อยู่ที่ 5,487.5 พันล้านบาท จาก 5,500.6 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.พ.57
- นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยการโยกย้ายเงินฝากของประชาชนที่สูงกว่าปกติในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดรวม โดยปัจจุบันเงินสดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอยู่ที่ 1.4-1.5 ล้านล้านบาท และขณะนี้สถานการณ์การเบิก-ถอนเงินของธนาคารออมสินล่าสุดในวันนี้กลับเข้าสู่ปกติแล้ว
- นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษก ธปท. กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ถือว่าใกล้เคียงที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ประเมินว่าเศรษฐกิจปี 56 จะเติบโตได้ 3% เนื่องจากกิจกรรมในประเทศ โดยเฉพาะการใช้จ่ายขยายตัวต่ำ อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังคงติดตามและพิจารณาปัจจัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิดว่าถึงขั้นต้องปรับประมาณการเศรษฐกิจปีนี้อีกครั้งหรือไม่ ซึ่งก็คงต้องขึ้นกับการตัดสินใจของ กนง.ที่จะมีการประชุมวันที่ 21 มี.ค.นี้
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ เนื่องจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นโตเกียวส่งผลให้มีแรงเทขายพันธบัตรเพื่อทำกำไร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 332 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.595% เพิ่มขึ้น 0.010% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน มี.ค.57 ลดลง 0.07 จุด แตะที่ 145.05 จุดที่ตลาดหุ้นโตเกียว