นายสุชาติ สินรันต์ รองอธิบดี
กรมการค้าภายใน กล่าวถึงการเปิด
ประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับ
จำนำข้าว ปี 55/56 และปี 56/57 ผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(เอเฟต) ว่า มีผู้เข้าร่วมเสนอราคาส่วนต่าง(ค่าเบสิส) ทั้งหมด 16 ราย โดยข้าวขาว 5% เสนอซื้อครบทุกกอง ราคาเสนอซื้อส่วนต่างอยู่ที่กิโลกรัม(กก.) ละ ลบ 1.70 บาท ถึงลบ 4 บาท จากราคาล่วงหน้าที่ขณะนี้ กก.ละ 13.70 บาท ส่วนข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 เสนอซื้อเข้ามารวมปริมาณ 29,400 ตัน ราคาเสนอซื้อส่วนต่างกก.ละ ลบ 1.60 บาท ถึงลบ 6.40 บาท จากราคาล่วงหน้าขณะนี้ที่ กก.ละ 30.75 บาท โดยการประมูลครั้งนี้ปริมาณข้าวรวม 230,000 ตัน แบ่งเป็น ข้าวขาว 5% ปริมาณ 162,000 ตัน และข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 68,500 ตัน
"ผู้เสนอส่วนต่างใกล้เคียงกับรอบที่ผ่านถือว่าน่าพอใจ แม้จะมีบางรายเสนอส่วนต่างลบมาก อย่างข้าวหอมมะลิ ลบถึงกิโลกรัมละ 6 บาทกว่า ซึ่งถ้าต่ำมากๆ เราก็อาจไม่ขายให้ก็ได้ เพราะจะเป็นราคาชี้นำข้าวล่วงหน้าได้ โดย คณะทำงานระบายข่าวผ่านเอเฟตจะพิจารณาราคาเสนอซื้อ และอนุมัติขายได้ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ และจะยื่นซองเสนอราคาครั้งต่อไปวันที่ 12 มีนาคมนี้ ปริมาณราว 200,000 ตัน" นายสุชาติ กล่าว
ขณะที่นายศักดิ์ดา ทองปลาด ผู้ทำการแทนผู้จัดการเอเฟต กล่าวว่า การเปิดขายข้าวสต๊อกรัฐบาลผ่านตลาดเอเฟต หากมีการอนุมัติขายทุกๆ 100,000 ตัน จะได้เงินประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเปิดระบายผ่านตลาดเอเฟตไปแล้ว 5 ครั้ง อนุมัติขาย 270,000 ตัน คิดเป็นเงิน 3,000 ล้านบาท และเชื่อว่าการระบายข้าวผ่านตลาดเอเฟตในทุกเดือนๆ ละ 200,000 ตัน จนถึงเดือน มิ.ย.นี้ จะสามารถระบายข้าวได้ทั้งสิ้น 1 ล้านตัน คิดเป็นเงินราว 10,000 ล้านบาท และจะนำเงินทยอยส่งคืนกระทรวงการคลัง 5,000 ล้านบาทก่อน เพราะต้องรอการชำระเงินค่าข้าวจากผู้ที่ได้รับอนุมัติตามสัญญารับมอบต่อไป