ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมอยู่ที่ 59.7, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 63.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 86.3
ปัจจัยลบสำคัญ ได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง การปิดสถานที่สำคัญต่างๆ, ผลการเลือกตั้ง 2 ก.พ.ที่ไม่สามารถจัดเลือกตั้งได้ครบทุกเขต ส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศล่าช้า, การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินกระทบต่อความเชื่อมั่นในด้านการบริโภค การลงทุนและท่องเที่ยว, สภาพัฒน์ฯ ปรับลด GDP ปี 57 เหลือ 3-4% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 4-5%, ความล่าช้าในการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าว, การส่งออกเดือนม.ค.ลดลง 2% , ผู้บริโภค ยังกังวลปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ทรงตัวในระดับสูง
ขณะที่ปัจจัยบวก ได้แก่ เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย, ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ ยังอยู่ในระดับทรงตัว