นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.37/39 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับเดียวกันกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ โดยเงินบาททิศทางการเคลื่อนไหวตามค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาคที่มีแนวโน้มแข็งค่า หลังดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่า
"เปิดตลาดเช้านี้ทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับที่ปิดตลาดเย็นวานนี้ ทิศทางปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาค" นักบริหารเงิน กล่าว
ตลาดรอดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันพรุ่งนี้ โดยคาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม คือ 2.25% หรือปรับดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งหาก กนง.มีมติไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ก็มีโอกาสที่จะปรับลดลงได้ในครั้งต่อไป ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไม่ส่งผลกระทบมากนัก
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 32.30-32.40 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.28 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 103.30 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3870 ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3878 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4050 บาท/ดอลลาร์
- สมาคมบล.หวั่นการเมืองยาวถึงไตรมาส 3 กระทบดัชนีต่ำกว่า 1,300 จุด ฉุดวอลุ่มซื้อขายเฉลี่ยเหลือ 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน ชี้ ผู้ประกอบการรับไม่ไหว โดยเฉพาะบริษัทที่มีมาร์เก็ตแชร์ต่ำอาจขาดทุน เตรียมปรับแผนงานลดต้นทุน-หั่นการลงทุนใหม่ "ก.ล.ต." เชื่อมั่นฐานะการเงินโบรกเกอร์รับมือไหว แถมมีรายได้จากส่วนอื่นเสริม
- สบน.เชื่อสถาบันจัดอันดับเครดิตยังไม่มีแนวโน้มปรับมุมมองเครดิตของประเทศในเชิงลบ แม้ปัญหาการเมืองภายในยังไม่สงบ พบจับตาโครงการประชานิยม หวั่นสร้างภาระผูกพันต่องบประมาณ
- รายงานข่าวจากกรมบัญชีกลางเปิดเผยถึงผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2557 ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 27 แห่ง ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงวันที่ 7 มี.ค.2557 พบว่ารัฐวิสาหกิจมีเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรวมอยู่ที่ 1.49 แสนล้านบาท แต่สามารถเบิกจ่ายได้จริง 1.23 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 82.23% โดยในส่วนนี้แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ มีเป้าหมายการเบิกจ่ายอยู่ที่ 1.38 แสนล้านบาท เบิกจ่ายได้จริง 1.21 แสนล้านบาท หรือ 87.64% ขณะที่เป้าหมายการเบิกจ่ายในส่วนรายจ่ายลงทุนอยู่ที่ 1.17 หมื่นล้านบาท แต่เบิกจ่ายได้จริงเพียง 2.17 พันล้านบาท หรือ 18.52%
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 50 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,410 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,342.42 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.41 ดอลลาร์สหรัฐ
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ โดยคาดว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินจะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในปัจจุบันเอาไว้ เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืด
- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.15% แตะที่ 6.1327หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
- นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรรายเดือนลงในอัตรา 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อไป พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่าเฟดอาจปรับมาตรการสัญญาณชี้นำล่วงหน้า(Forward Guidance) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย การแสดงความเห็นดังกล่าวบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งต่อๆไป ซึ่งรวมถึงการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 18-19 มี.ค.นี้ด้วย โดยจะเป็นการประชุมครั้งแรกที่มีนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนใหม่ทำหน้าที่ประธานการประชุม
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากมีรายงานว่า ยอดการส่งออกของจีนร่วงลงอย่างหนักในเดือน ก.พ. ส่งผลให้จีนขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย.56 โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,418.68 จุด ลดลง 34.04 จุด หรือ -0.21%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,334.45 จุด ลดลง 1.77 จุด หรือ -0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,877.17 จุด ลดลง 0.87 จุด หรือ -0.05%
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแอเกินคาดของจีนซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่นำเข้าทองคำรายใหญ่ของโลก ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย.ปรับตัวขึ้น 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,341.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค.ลดลง 1.8 เซนต์ ปิดที่ 20.87 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 6.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,477.2 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มี.ค.ดิ่งลง 4.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 776.65 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากทางการจีนรายงานว่ายอดการส่งออกของจีนร่วงลงอย่างหนักในเดือน ก.พ. ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์พลังงาน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ปรับตัวลง 1.46 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 101.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 92 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 108.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ดอลลาร์ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลจ้างงานที่สดใสในเดือน ก.พ. โดยค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3869 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3871 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับ 1.6640 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6726 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.20 เยน จากระดับ 103.30 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8783 ฟรังค์ จากระดับ 0.8774 ฟรังค์
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากยอดการส่งออกของจีนที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือน ก.พ.ได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ นอกจากนี้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยลบจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างยูเครนและรัสเซีย โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 331.4 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,370.84 จุด เพิ่มขึ้น 4.42 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,265.50 จุด ลดลง 85.25 จุด หรือ -0.91%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,689.45 จุด ลดลง 23.22 จุด หรือ -0.35%