เงินบาทปิด 32.43/44 แข็งค่าตามภูมิภาค ตลาดรอปัจจัยใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 31, 2014 17:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.43/44 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 32.49/51 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันไปทำโลว์ที่ระดับ 32.41/42 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค โดยมีปัจจัยจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลอื่น
"แข็งค่าลงไปอยู่ที่ 32.41/42(บาท/ดอลลาร์) แต่มีแรงซื้อเข้ามาก็เด้งกลับมาช่วงท้ายตลาด" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์

"ยังไม่มีปัจจัยใหม่ เงินบาทน่าจะแข็งค่าต่อเนื่อง" นักบริหารเงิน กล่าว

THAI BAHT FIX PM ณ วันที่ 31 มี.ค.57 อยู่ที่ระดับ 32.4310 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.20 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.81 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.3786 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3751 ดอลลาร์/ยูโร
  • SET ปิดที่ระดับ 1,376.26 จุด เพิ่มขึ้น 7.36 จุด(+0.54%) มูลค่าการซื้อขาย 22,540.24 ล้านบาท
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 57 ลงมาที่ 1.8% ในกรณีพื้นฐาน (จากประมาณการเดิมอยู่ที่ 3.0% บนสมมติฐานว่ามีรัฐบาลใหม่ได้ภายในกลางปี) และปรับกรอบประมาณการลงมาอยู่ในช่วง 1.3-2.4% โดยสัญญาณการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนในภาพรวม อาจไม่สะท้อนภาพที่ชัดเจนได้มากนักในปีนี้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.พ.57 ระบุว่า เศรษฐกิจโดยรวมหดตัวจากเดือนก่อนจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อส่งผลให้ครัวเรือนและธุรกิจระมัดระวังการใช้จ่ายทั้งเพื่อบริโภคและลงทุน สอดคล้องกับการนำเข้าสินค้าและภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัว ขณะเดียวกันภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการเมืองมากขึ้น ส่วนการส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นตามแนวโน้มอุปสงค์จากต่างประเทศ
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ก.พ.57 อยู่ที่ระดับ 46.5 จากเดือน ม.ค.อยู่ที่ 45.4 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคที่มิใช่อุตสาหกรรมที่ยังเปราะบาง
  • นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า จะยังไม่มีการปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)หลังสิ้นสุดระยะเวลาในเดือน ก.ย.57 นี้ และได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปศึกษาว่าจะคงอัตราเก็บ VAT ในอัตรา 7% ได้อีกนานเพียงใด เพราะหากมีการปรับเพิ่มจะกระทบต่อผู้ประกอบการจำนวนมาก
  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดเพิ่มขึ้นในวันนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นโตเกียวที่ยังคงปรับตัวขึ้น ทำให้นักลงทุนลดความต้องการพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 333 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาวปิดที่ 0.640% เพิ่มขึ้น 0.015% จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปี ส่งมอบเดือน มิ.ย.ลดลง 0.14 จุด แตะที่ 144.62 ที่ตลาดหุ้นโอซาก้า
  • สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน(SAFE) ระบุว่า หนี้ต่างประเทศค้างชำระของจีนเพิ่มขึ้นแตะ 8.632 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงสิ้นปี 2556 ซึ่งเพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อนหน้า โดยตัวเลขดังกล่าวไม่รวมหนี้ต่างประเทศค้างชำระของฮ่องกง เขตปกครองพิเศษมาเก๊า และไต้หวัน ซึ่งหนี้ต่างประเทศส่วนใหญ่มาจากการกู้ยืมในระยะสั้น โดยหนี้ต่างประเทศค้างชำระ ระยะเวลาหนึ่งปีหรือน้อยกว่านั้น อยู่ที่ 6.766 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่หนี้ต่างประเทศค้างชำระ ระยะยาวและระยะกลางอยู่ที่ 1.865 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 52 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,960 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,293.74 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 5.62 ดอลลาร์สหรัฐ
  • สำนักงานสถิติสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ราคาผู้บริโภคของยูโรโซนในเดือน มี.ค.ขยายตัว 0.5% หลังจากขยายตัว 0.7% ในเดือน ก.พ. ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดนี้ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.52 และยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ราว 2% ของธนาคารกลางยุโรป และนับเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันแล้วที่อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนอยู่ในระดับต่ำกว่า 1% ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับภาวะเงินฝืด โดยธนาคารกลางยุโรปคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า อัตราเงินเฟ้อในปีนี้จะอยู่ที่ 1% และที่ 1.3% ในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายในระยะกลางของธนาคาร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ