ธปท.เชื่อแบงก์รับมือศก.ซบเซาได้ 1-2 ปีหลังตั้งสำรองสูง, สินเชื่อมี.ค.ยังโต

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 29, 2014 11:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการทำบททดสอบฐานะธนาคารพาณิชย์ในภาวะวิกฤต (stress test) โดยการตั้งสมมติฐานแบบเลวร้ายมากที่สุดให้เศรษฐกิจไทยซบเซานานประมาณ 1-2 ปี ทาง ธปท.มั่นใจว่าระบบของธนาคารพาณิชย์ยังคงสามารถเป็นเสาหลักให้เศรษฐกิจของประเทศได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเฉพาะจากความแข็งแกร่งของเงินสำรองเผื่อหนี้สูญทั้งระบบที่สูงถึง 157%

อย่างไรก็ตาม ธปท.ยอมรับในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ที่ต้องการสินเชื่อเพื่อนำไปหมุนเวียนในธุรกิจอาจค่อนข้างลำบาก เพราะมีภาระจ่ายค่าธรรมเนียมการขอค้ำประกันสินเชื่อจากบรรษัทประกันสินเชื่อขนาดย่อม (บสย.) ที่ 1.75% ดังน้น ธปท.จึงอาจประสานงานไปยังสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)เข้ามารับภาระจ่ายชดเชยค่าธรรมเนียมในส่วนนี้แทนลูกค้า

ส่วนภาพรวมการขยายตัวของสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบในเดือน มี.ค.57 ยังสามารถเติบโตได้พอสมควร โดยเฉพาะสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ยังเติบโตได้ 11.7% แม้จะลดลงจากช่วงไตรมาสเดียวกับปีก่อนที่เติบโต 14% แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่คุณภาพสินเชื่อนั้น สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นเดือน มี.ค.57 ของทั้งระบบยังทรงตัวต่อเนื่องที่ระดับ 2.3%

"หากวัดเป็นจำนวนเงินย่อมมีปริมาณเพิ่มขึ้นตามสินเชื่อที่ขยายตัวแน่นอน แต่ไม่ได้สร้างความหนักอกหนักใจในการบริหารสินเชื่อของธนาคาร โดยเฉพาะลูกหนี้เอสเอ็มอีที่มี NPL ทรงตัวอยู่ที่ 3.6% ถือว่าไม่มากนัก เช่นเดียวกับ NPL สินเชื่อรายย่อยที่ทรงตัวในระดับ 2.4%"

อนึ่ง ณ สิ้นเดือนมี.ค.57 สินเชื่อรวมทั้งระบบของธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 9.8% จากช่วงไตรมาสเดียวกับปีก่อน ซึ่งประกอบด้วยสินเชื่อรายใหญ่โต 6.9% เท่ากับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเติบโต 11.7% จาก 14.6% และสินเชื่อรายย่อยเติบโต 10.7% จาก 12.09% โดยสินเชื่อรายย่อยที่ลดลงอย่างมากเป็นผลจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่โตลดลงเหลือ 2.5% จากเดิมที่เคยโตกว่า 30% และสินเชื่อส่วนบุคคลโต 7% จากเดิมที่เคยโตกว่า 20%

นอกจากนี้ สินเชื่อที่ผิดนัดชำระหนี้ไม่เกิน 3 เดือนและต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) ในส่วนของเอสเอ็มอีอยู่ที่ 2.1% สินเชื่อรายย่อยอยู่ที่ 2.4% ซึ่งธนาคารพาณิชย์ได้เข้าไปช่วยเหลือและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เช่น ยืดอายุการชำระหนี้ เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ