วันพรุ่งนี้ตลาดจับตาดูปัจจัยทางการเมือง กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดีถอดถอนสภาพความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทไม่ปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาค
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 32.35-32.45 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.92 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.12 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3927 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3875 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,404.01 จุด ลดลง 17.47 จุด, -1.23% มูลค่าการซื้อขาย 27,011.60 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 388.52 ล้านบาท(SET+MAI)
- คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยังไม่เสนอร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งฯ แต่จะขอนัดหารือนายกฯ-รัฐบาลอีกรอบก่อน
- ผลสำรวจของมาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือน เม.ย.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.1 จาก 52.2 ในเดือน มี.ค. และทรงตัวเมื่อเทียบกับข้อมูลเบื้องต้น โดยภาคบริการของยูโรโซนขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือน เม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากผลผลิตในภาคบริการที่เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน
- ศาลรัฐธรรมนูญนัดวันพรุ่งนี้(7 พ.ค.) เวลา 12.00 น.ฟังคำวินิจฉัยคดีประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาเพื่อขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) โดยมิชอบ
- นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาราว 15,000 ล้านบาท และดัชนี SET เริ่มขยับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับช่วงก่อนจะมีความท้าทายทางการเมืองเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือน ต.ค.56 ที่ดัชนี SET อยู่ที่ 1,440 จุด โดย ณ วันนี้ ดัชนี SETอยู่ที่ 1,420 จุด
แสดงให้เห็นว่าตลาดทุนไทยมีความแข็งแกร่ง นักลงทุนต่างชาติยังมองสถานการณ์เศรษฐกิจแยกออกจากความกังวลสถานการณ์การเมืองได้ค่อนข้างดี ทั้งนี้เชื่อว่าเงินทุนต่างประเทศจะยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องในตลาดหุ้นไทย นอกจากผ่านตลาดทุนแล้วก็ยังมีการการลงทุนโดยตรงที่เห็นได้จากยอดขออนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)