ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในช่วงสามเดือนข้างหน้าจากการสำรวจพบว่า ดัชนีโดยรวมอยู่ที่ระดับ 52.88 จุด ลดลงจากการจัดทำเดือนเมษายนเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 จุด ทำให้เชื่อว่ากลุ่มตัวอย่างยังคงมีมุมมองระยะกลางต่อราคาทองคำในเชิงบวก โดยมองปัจจัยเรื่องความผันผวนของค่าเงินบาท ความเสี่ยงในยูเครน ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการปรับเปลี่ยนนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นปัจจัยที่มีผลกระทบสำคัญ
นายทรรศนะ บุญขวัญ เปิดเผยบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 10 ตัวอย่าง เชื่อว่าราคาทองคำในประเทศในเดือนพฤษภาคมน่าจะใกล้เคียงกับเดือนเมษายนหรือปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ
ขณะที่มองว่าราคาทองคำในตลาดโลกกรอบสูงสุดน่าจะอยู่ระหว่าง 1,340-1,350 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ขณะที่กรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดจะอยู่ที่ 1,250-1,280 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 20,600-20,800 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 19,400-19,600 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยทองคำยังได้จัดทำแบบสำรวจเป้าหมายราคาทองคำในช่วงครึ่งหลังปี 2557 โดยสำรวจจากผู้ค้าทองคำรายใหญ่จำนวน 6 ราย พบว่าผู้ค้ารายใหญ่มองราคาทองคำเฉลี่ยครึ่งปีหลังต่ำกว่าระดับ 20,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ ขณะที่มองจุดสูงสุดประมาณ 22,000 บาท และต่ำสุดเฉลี่ยใกล้ระดับ 18,000 บาท ประมาณการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกครึ่งหลังปี 2557