ซึ่ง นางสาวสุภิญญา มีความเห็นมาโดยตลอดว่า กระบวนการออกใบอนุญาตทีวีสาธารณะ จำเป็นที่จะต้องมีหลักเกณฑ์ beauty contest หรือ ประกาศที่เกี่ยวข้องกับ เงื่อนไข หลักเกณฑ์การคัดเลือกเป็นการเฉพาะตามเงื่อนไขของกฎหมายที่กำหนดให้มีลักษณะแตกต่างกันในการประกอบกิจการ รวมทั้งต้องมีกระบวนการในการรับฟังความคิดเห็นตามเงื่อนไขของกฎหมายที่เพียงพอต่อการยึดโยงในการใช้ดุลพินิจของ กสท. ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส แม้ตอนนี้มีเพียง ประกาศ กสทช. 2 ฉบับหลักที่ทำขึ้นเพื่อใช้บังคับทั่วไป (ได้แก่ ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 และ ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล พ.ศ. 2556)
จึงอยากส่งสัญญาณให้สังคมร่วมกันเริ่มติดตาม ตรวจสอบกระบวนการออกใบอนุญาตทีวีสาธารณะที่เหลือ 9 ช่อง นับจากนี้ ที่สามารถได้รับสิทธิในการออกอากาศได้เลย 12 ช่องแรก แม้วาระการยื่นคำขอช่องรัฐสภาก่อนช่องสาธารณะอื่นครั้งนี้ จะเป็นเพียงวาระแจ้งเพื่อทราบ แต่แน่นอนว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังละเอียดอ่อนเช่นนี้ หากกสทช.ไม่สร้างเงื่อนไขที่รัดกุมในการพิจารณาออกใบอนุญาต เกรงว่าอาจตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองในสถานการณ์ตอนนี้ได้ รวมทั้งความเป็นอิสระตามหลักการทีวีสาธารณะมิควรให้เกิดการครอบงำจากภาครัฐหรือราชการเพียงอย่างเดียว
ส่วนวาระอื่นน่าติดตาม ได้แก่ แนวทางการพิจารณาการออกใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการกระจายเสียง(กิจการไม่ใช้คลื่นความถี่) ในกรณีปรากฏข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำหรือขัดแย้งกับการกำกับดูแลด้านการคุ้มครองผู้ใช้บริการ (การโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย) หรือเนื้อหารายการ