หอการค้าฯ วอนยกเลิกกฎอัยการศึกใน 3-4 เดือน/ต่างชาติมองดีกว่าปฏิวัติ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 21, 2014 16:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการหอการค้าไทยเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของไทยภายหลังการประกาศใช้กฎอัยการศึกว่า ในเร็วๆ นี้ จะหารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย รวมถึงหารือร่วมกับ 7 องค์กรภาคเอกชน เพื่อประเมินสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจภายหลังการใช้กฎอัยการศึก และหาแนวทางการแก้ปัญหา แต่คงยังไม่นำเสนอรัฐบาล เป็นเพียงแนวทางการแก้ปัญหาของภาคเอกชนเท่านั้น

พร้อมระบุว่า หากยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึกภายใน 3-4 เดือนก็อาจจะเกิดผลกระทบเศรษฐกิจในระยะยาวได้ เพราะจะทำให้ต่างชาติ ทั้งนักท่องเที่ยว นักลงทุน นักธุรกิจต่างๆ ขาดเชื่อมั่นในประเทศไทย ที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการเมืองได้

ส่วนจะมีผลทำให้เศรษฐกิจในปีนี้เป็นอย่างไร คงต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง แต่หอการค้าไทย จะจัดคณะผู้แทน ประกอบด้วยผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายเล็ก ในอุตสาหกรรมอาหาร วัสดุก่อสร้าง เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น เดินทางไปฟื้นความเชื่อมั่นประเทศไทย ที่ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และปากีสถาน

"ภาคเอกชนต้องการรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มมากที่สุด เพื่อมาบริหารประเทศ และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวแล้ว ประเทศไทยควรจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่วนการได้รัฐบาลใหม่จะด้วยวิธีการใด หรือจะมีนายกรัฐมนตรีคนกลางหรือไม่ เราไม่ทราบ เป็นเรื่องทางการเมือง แต่เราขอให้ได้รัฐบาลโดยเร็วที่สุด หรือปัญหาทุกอย่างจบได้เร็วก่อนเดือนก.ย.นี้ก็จะดี และภาคเอกชนพร้อมทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกับทุกรัฐบาลได้" นายอิสระ กล่าว

ด้านนายนานดอร์ วอน เดอร์ ลูเฮ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาการเมืองของไทยที่ยาวนานถึง 6 เดือนมาแล้ว ทำให้ประเทศไทยสูญเสียความเชื่อมั่น ซึ่งการประกาศใช้กฎอัยการศึก จะส่งผลด้านดีมากกว่าการปฏิวัติ เพราะเป็นการทำให้ประเทศสงบเรียบร้อย หยุดยั้งความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ เชื่อว่า หลังจากนี้ ไทยจะหาทางออกที่ดีได้

นายเซตซึโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กล่าวว่า นักธุรกิจต่างชาติในไทยที่คุ้นเคยกับความขัดแย้งทางการเมือง คงไม่หวาดวิตก หรือหวั่นเกรงเหตุการณ์ในประเทศไทย หรือการประกาศใช้กฎอัยการศึก แต่ก็หวังให้ไทยหาทางออกทางการเมืองโดยเร็ว และด้วยสันติวิธี อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจญี่ปุ่น ยังคงมั่นใจที่จะทำธุรกิจในไทยต่อไป เพราะไทยมีศักยภาพในหลายๆ ด้าน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ