(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.43/45 แข็งค่าจากวานนี้หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯกดดอลล์อ่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 13, 2014 11:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.43/45 บาท/ดอลลาร์ ขยับแข็งค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.45/46 บาท/ดอลลาร์
"ตัวเลข Retail Sale ของสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ต่ำกว่าคาดการณ์ ทิศทางเงินบาทเหมือนจะขยับลง แต่มีคนรอซื้ออยู่เยอะทำให้ไม่ลงไปมาก ขณะเดียวกันพอขยับขึ้นก็มีแรงขายจากผู้ค้าทองคำ ช่วงเช้าน่าจะแกว่งตัวในกรอบ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.40-32.50 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ คงต้องดู dollar index และราคาทองคำระหว่างนี้ด้วย" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.4117 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(12 มิ.ย.) อยู่ที่ 1.81541% และ THAI BAHT FIX 6M(12 มิ.ย.) อยู่ที่ 1.83186%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.76 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 102.02 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3563 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3524 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4730 บาท/ดอลลาร์
  • ตลาดหลักทรัพย์เผยผลโรดโชว์ "ฮ่องกง-สิงคโปร์" นักลงทุนยังเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย พร้อมมีแผนซื้อเพิ่มหรือถือไว้ต่อ หลัง"แบงก์ชาติ" ให้ข้อมูลภาพการเมืองชัดเจนขึ้น คาดเศรษฐกิจฟื้นตัวครึ่งปีหลัง ระบุบริษัทจดทะเบียนไทยพื้นฐานแข็งแกร่ง ทำกำไรได้ในทุกวิกฤติ ด้านตลาดหลักทรัพย์โชว์แผนดันวอลุ่ม-มาร์เก็ตแคปเพิ่มเท่าตัวในปี 2063 จากปัจจุบันอยู่ที่ 13 ล้านล้านบาท
  • นายแบงก์-ผู้เชี่ยวชาญตลาดทุนไทย เห็นพ้องการเมืองเปลี่ยนแปลง ช่วยปลดล็อกเพิ่มศักยภาพให้ตลาดทุนไทย ที่มีความพร้อมสามารถขึ้นเป็นศูนย์กลางพัฒนาตลาดทุนเพื่อนบ้านอาเซียนอย่างกัมพูชา-ลาว-พม่าเวียดนามได้
  • สบน.เตรียมทบทวนแผนบริหารหนี้สาธารณะ พร้อมเร่งหารือหาแหล่งเงินโครงสร้างพื้นฐาน
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรัก ด้าน ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงยอดค้าปลีกเดือน พ.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรัก
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่ายอดค้าปลีกเดือน พ.ค.ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลง
  • ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลง 75.15 จุด หรือ 0.32% เปิดที่ 23,099.87 จุดในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงยอดค้าปลีกเดือน พ.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 108 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,810 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,279.17 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.70 ดอลลาร์สหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่งผลให้สัญญาทองคำปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.ปีนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.พุ่งขึ้น 12.8 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ 1,274 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 36.1 เซนต์ ปิดที่ 19.533 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ก.ค.ร่วงลง 39.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,441.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย.ร่วงลง 40.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 819.40 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในพื้นที่ทางตอนเหนือและตอนกลางของอิรัก ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปค) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.พุ่งขึ้น 2.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 2556 ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 3.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 113.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.56
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่ายอดค้าปลีกสหรัฐในเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด โดยค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3564 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3528 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6837 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6793 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.67 เยน จากระดับ 102.03 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8977 ฟรังค์ จากระดับ 0.9001 ฟรังค์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9423 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9384 ดอลลาร์สหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ