โพลล์หอการค้าเผยสถานการณ์คอร์รัปชั่นมิ.ย.57 ดีขึ้น หลังคสช.เอาจริงปราบปราม

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 26, 2014 16:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยเดือน มิ.ย.57 ปรับตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี หลัง คสช.บริหารประเทศ แก้ปัญหาคอร์รัปชั่นจริงจัง ทำคนเรียกเงินใต้โต๊ะไม่กล้า คนจ่ายเงินไม่กล้าจ่าย เปอร์เซ็นต์เงินใต้โต๊ะที่ต้องจ่ายลดลงเหลือ 15-25% จากสำรวจทุกครั้งอยู่ที่ 25-35% ทำเงินคอร์รัปชั่นลดฮวบ 1 แสนล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.5-0.7% วอน คสช.เดินหน้าปราบต่อเนื่อง

"ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยโดยรวมอยู่ที่ 46 เพิ่มขึ้นจาก 35 คะแนน ในการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือน ธ.ค.56 ถือเป็นค่าดัชนีสูงสุดในรอบ 5 ปีหรือตั้งแต่ปี 53 ที่มีการสำรวจดัชนีนี้ ส่วนดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 45 คะแนน เท่ากับการสำรวจครั้งก่อน และดัชนีแนวโน้มสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยอยู่ที่ 47 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 40 คะแนน" นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าว

ทั้งนี้ ม.หอการค้า ได้ทำการสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทย จากกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ ผู้ประกอบการ/ภาคเอกชน, ข้าราชการ/ภาครัฐ และประชาชน รวม 2,400 ตัวอย่าง ในเดือน มิ.ย.57

สำหรับความเสียหายของการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ประเมินจากงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยราชการนั้น พบว่า ผู้ตอบส่วนใหญ่ 48.4% ระบุว่า ต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษให้แก่ข้าราชการ/นักการเมือง ที่ทุจริตเพื่อให้ได้สัญญาระหว่าง 15-25% ของเงินงบประมาณรายจ่าย ค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ, ผู้ตอบอีก 25.9% ระบุจ่ายมากกว่า 25%, 7.4% ระบุจ่ายที่ 11-15%, 3.7% ระบุจ่ายที่ 6-10% และอีก 0.1% ระบุจ่ายเพียง 1-5% ซึ่งต่างจากการสำรวจในปี 53-56 ที่ผู้ตอบส่วนใหญ่ระบุว่า ต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสูงถึง 25-35% ของงบประมาณฯ

ทั้งนี้ ประเมินว่า วงเงินงบประมาณรายจ่าย ค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงงบลงทุนรัฐวิสาหกิจปี 57 อยู่ที่ 1.005 ล้านล้านบาท หากมีการจ่ายเงินพิเศษ 15-25% จะคิดเป็นเงินเม็ดเงินที่ต้องจ่ายอยู่ที่ 150,763.4-251,272.3 ล้านบาท คิดเป็น 5.97-9.95% ของงบประมาณรายจ่ายภาครัฐทั้งหมด 2.525 ล้านล้านบาท และคิดเป็น 1.18-1.97% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) อย่างไรก็ตาม ทุกๆ 1 เปอร์เซ็นต์ของการจ่ายเงินใต้โต๊ะที่ลดลงนั้น จะทำให้การคอร์รัปชั่นของไทยลดลง 10,000 ล้านบาท ซึ่งการที่ผู้ประกอบการจ่ายเงินใต้โต๊ะที่ 15-25% จากเดิมที่ต้องจ่าย 25-35% เท่ากับเงินจากการคอร์รัปชั่นลดลง 100,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ 0.5-0.7%

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การสำรวจครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์ในประเทศไม่ปกติ เป็นสถานการณ์ที่โครงการลงทุนใหญ่ๆ ของภาครัฐยังไม่เกิด ยังไม่มีการใช้งบประมาณ ประกอบการ คสช.เอาจริงแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ทำให้การคอร์รัปชั่นลดลง และเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะลดลง แต่ในอนาคตไม่แน่ว่า สถานการณ์จะยังดีต่อเนื่องเช่นนี้หรือไม่ แต่ต้องการให้ คสช. ถือโอกาสนี้แก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้อันดับการคอร์รัปชั่นของไทยดีขึ้น จากปี 56 ไทยอยู่ที่ 102 ของโลก จาก 177 ประเทศ และอันดับที่ 16 ของอาเซียน จาก 28 ประเทศ

ขณะที่นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หากจะให้ปัญหานี้หมดไป จะต้องมีผู้นำประเทศที่มีความมุ่งมั่นในการปราบปรามคอร์รัปชั่น เช่นเดียวกับฮ่องกง สิงคโปร์ หรือเกาหลีใต้ แต่ประเทศไทยไม่เคยมีผู้นำเช่นนั้นเลยจนกระทั่งถึงวันที่ 22 พ.ค.57 หากคสช.ยังมุ่งมั่นที่จะปราบปรามปัญหานี้ต่อไป หากทำให้คอร์รัปชั่นในประเทศลดลงได้ 50% ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ