สำหรับวิธีการดังกล่าวรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้กับโรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ผู้ประกอบการค้าข้าวเป็นลูกค้าอยู่ หรือธนาคารอื่น ตามมูลค่าข้าวเปลือกที่ผู้เข้าร่วมโครงการในอัตรา 3% ต่อปี ตามระยะเวลาที่เก็บรักษาสต๊อกไว้ 3-6 เดือนนับตั้งแต่วันที่กู้ เพื่อให้นำเงินกู้มารับซื้อข้าวเปลือกปี 57/58 จากเกษตรกรในราคานำตลาดตันละ 100-200 บาท โดยกำหนดให้ซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรเดือนพ.ย.57-ม.ค.58 มีระยะเวลาการเก็บสต๊อกข้าวเดือนพ.ย.57-ก.ค.58 และโครงการนี้มีระยะเวลาดำเนินการเดือนพ.ย.57-ก.ย.58
"โครงการนี้จะทำให้โรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าวมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร โดยไม่เร่งระบายผลผลิตออกสู่ตลาด ทำให้สามารถดึงปริมาณข้าวเปลือกส่วนเกินออกจากระบบตลาดได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งมาตรการนี้เป็นหนึ่งในหลายๆ มาตรการที่ คสช.ได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือชาวนา นอกเหนือจากการลดต้นทุนการผลิตให้ชาวนา คาดว่าจะทำให้ราคาข้าวเปลือกอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม มีเสถียรภาพ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำได้" นายสมชาติ กล่าว