กระทรวงเกษตรฯ กำชับให้เจ้าหน้าที่ระดับพื้นที่เข้าถึงและใกล้ชิดเกษตรกรมากที่สุด เพื่อขับเคลื่อนนโยบายลดต้นทุนการผลิตแก่เกษตรกรให้เป็นไปตามที่ คสช.เห็นชอบ ด้วยวิธีลดราคาปัจจัยการผลิต 432 บาท/ไร่ ได้แก่ ปุ๋ยเคมีลดลง 40 บาท/ไร่ สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชลดลงขั้นต่ำ 20 บาท/ไร่ เมล็ดพันธุ์ลดลง 122 บาท/ไร่ ค่าบริการรถเกี่ยวข้าวลดลง 50 บาท/ไร่ และค่าเช่าที่นาลดลงขั้นต่ำ 200 บาท/ไร่ ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตในด้านปัจจัยการผลิตของชาวนาเฉลี่ยจาก 4,787 บาท/ไร่ ลดลงมาเหลือ 4,355 บาท/ไร่
ขณะที่กรมส่งเสริมการเกษตรยังได้จัดทำโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่ชาวนาผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 57/58 ซึ่งจะดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ เป็นวิทยากรในการให้คำแนะนำการปฏิบัติทางการเกษตรที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและเหมาะสมกับพื้นที่ เช่น กรมการข้าว, กรมพัฒนาที่ดิน, กรมวิชาการเกษตร เป็นต้น โดยจะเริ่มดำเนินการในระยะเวลา 4-5 เดือน คือ ตั้งแต่เดือนก.ค.นี้เป็นต้นไปจนถึงก่อนที่จะมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือนพ.ย.
สำหรับพื้นที่เป้าหมายจะดำเนินการในพื้นที่ 814 อำเภอ ที่มีการปลูกข้าวและมีนัยสำคัญในเชิงเศรษฐกิจ คิดเป็นจำนวนเกษตรกรประมาณ 1 ล้านราย ซึ่งกลไกขับเคลื่อนสำคัญ คือ การแนะนำและส่งเสริมองค์ความรู้ รวมถึงติดตามผลการปฏิบัติงานตามแนวทางส่งเสริมถ่ายทอดเทคโนโลยีการลดต้นทุน โดยนักส่งเสริมการเกษตรของกรมส่งเสริมการเกษตรที่มีอยู่จำนวน 5,000 คน และอาสาสมัครเกษตรที่มีอยู่จำนวน 61,102 ราย ในการลงพื้นที่เป็นรายแปลงเกษตรกรตามที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้มาตรการส่งเสริมการลดต้นทุนให้แก่เกษตรกรเห็นผลได้ชัดเจนเป็นรูปธรรม ซึ่งเมื่อจบโครงการฯ แล้ว สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) จะติดตามประเมินผลโครงการด้วย