นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.10/11 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากวานนี้รอปัจจัยใหม่ที่จะมีผลต่อค่าเงินอย่างมีนัยสำคัญ
"เช้านี้เงินบาทเปิดมาเท่ากับเมื่อเย็นวาน แต่ล่าสุดขึ้นมาอยู่ที่ 32.14/15...แม้ตัวเลข PPI ของสหรัฐจะออกมาดี แต่ก็ไม่มีผลเพราะไม่ใช่ตัวเลขสำคัญ...มองว่าเทรนด์เงินบาทยังแข็งค่าต่อ...ลงมาแถว 32.10 ก็มีแรงซื้อ ขึ้นไปแถว 32.19/20 ก็มีแรงขาย" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.10-32.20 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.56 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 101.73 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3532 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.3534 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.1560 บาท/ดอลลาร์
- เอชเอสบีซีหั่นคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้เหลือ 1.4% จากเดิมให้ 3% หลังประเมินอุปสงค์ในประเทศกับการส่งออกฟื้นตัวช้า แต่เชื่อระยะยาวยังเป็นบวก มองปีหน้าโต 5% ด้านค่าบาทแข็งค่ารอบ 4 เดือน จากเงินทุนไหลเข้า ขณะสภาตลาดทุนเชิญคสช.โรดโชว์"สิงคโปร์-ฮ่องกง"
- กรอ.ไฟเขียว 14 มาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นการลงทุน-เชื่อมัน เผย "ประยุทธ์" เน้น 3 เรื่องหลัก "ตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน-วางผังเมือง-ช่วยเอสเอ็มอี" ขณะอุตฯ ร่วม ส.อ.ท. แก้ปัญหาออกใบอนุญาตล่าช้า เตรียมตั้งกรรมการ 4 ชุด หวังเพิ่มขีดแข่งขันอุตสาหกรรมไทย
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เตรียมเสนอ คสช. ใส่เงินร่วมทุนตั้ง "เอไอไอบี" โดยมีจีนเป็นหัวเรือใหญ่ เผยวงเงินเบื้องต้น 1.5 แสนล้านบาท ด้าน "แบงก์ชาติ" หนุน ไทยร่วมลงทุน สะท้อนความร่วมมือในภูมิภาค เชื่อ จีน หวังยก เอไอไอบี เทียบชั้น "เวิลด์แบงก์-เอดีบี" กระตุ้นการแข่งขัน
- นักวิเคราะห์ฯประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้ม Side way มองการปรับตัวลงหรือขึ้นอาจจะไม่มาก เนื่องจากปัจจุบันมองว่าราคาหุ้นในตลาดเริ่ม over bought แล้ว ซึ่งปัจจัยที่ยังต้องติดตามในช่วงนี้คือ การประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มแบงค์หากออกมาดีกว่าคาดก็จะส่งผลบวกต่อตลาดได้
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐกระเตื้องขึ้นในทุกภูมิภาคในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคมีความแข็งแกร่ง
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวก
- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐเพิ่มขึ้น 4 จุด แตะ 53 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. เนื่องจากตลาดแรงงานแข็งแกร่งขึ้นจนทำให้ผู้สร้างบ้านเชื่อว่ามีแนวโน้มที่จะขายบ้านได้มากขึ้น
- การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐขยายตัวปานกลางในเดือนมิ.ย. นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า การใช้จ่ายของภาคธุรกิจและผู้บริโภคกระเตื้องขึ้นอย่างช้าๆแต่มั่นคงในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้
- บรรดาผู้นำของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ได้ตัดสินใจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ในการประชุมคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับสหรัฐอเมริกา อันเนื่องมาจากมาตรการคลี่คลายวิกฤติยูเครนของรัสเซียนั้น ไม่เป็นที่น่าพอใจ
- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.29% แตะที่ 6.1564 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่า อินเดียนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเป็นเวลาหลายวันก่อนหน้านี้
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 19 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,030 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,303 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.06 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง